พลังลับแห่งเสียงเพลงวันคริสต์มาส

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 09:05 • ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
พลังลับแห่งเสียงเพลงวันคริสต์มาสD1-01.jpg

 

All I Want For Christmas is Youuuuuuuuuuu

คริสต์มาส เป็นเทศกาลอบอุ่นหัวใจที่ใครๆ หลายคนรอคอยให้มาถึง แม้ที่ประเทศไทยจะไม่มีบรรยากาศหิมะตกโปรยปราย แต่เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊ง ต้นคริสต์มาสที่ประดับแสงไฟวิบวับห้อยรวมกับของตกแต่งหลากสี ตุ๊กตาซานต้าที่ตกแต่งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ บวกกับลมหนาวช่วงปลายปี ก็ชวนให้เรารู้สึกดีและอินไปกับเทศกาลนี้ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เลย

 

แต่สิ่งสำคัญที่ขาดจากเทศกาลนี้ไม่ได้เลยก็คือบรรดาเพลงต่างๆ ในเทศกาลคริสต์มาส ทั้งเพลงคุ้นหูที่เราได้ยินกันบ่อยๆ อย่าง จิงเกิลเบล (Jingle Bells) หรือเพลงป๊อบที่มีเนื้อหาพูดถึงคริสต์มาสจากศิลปินมากมาย ที่ดนตรีดังขึ้นมาเมื่อไรก็รู้ได้ว่า โฮ่ โฮ่ โฮ่ ซานต้ามาเยือนแล้ว แต่เราเคยสังเกตกันไหมนะว่า เมื่อเราได้ยินเพลงเหล่านี้ เรารู้สึกอย่างไร สนุกสนานรื่นเริง ผ่อนคลาย สงบใจ หรือสำหรับบางคนอาจรู้สึกเศร้าเมื่อได้ยินเสียงเพลงคริสต์มาสดังขึ้นก็ได้

 

a-chieve อยากชวนทุกคนมาสัมผัสพลังมหัศจรรย์ของเพลงคริสต์มาสว่ามีผลต่อจิตใจคนฟังอย่างไรบ้าง ทำไมเพลงเดียวกันทำให้บางคนสุข บางคนเศร้า บทความนี้จะช่วยไขความลับนี้ไปด้วยกัน มาร่วมสำรวจตัวเองไปพร้อมๆ กับเสียงเพลงแห่งเทศกาลคริสต์มาส เพื่อเข้าใจตัวเองมากกว่าเดิม

 

#เพราะคริสต์มาสเลยคิดถึง

 

เพลงมีผลต่อความทรงจำของเรา เสียงเพลงคริสต์มาสทำให้เราเชื่อมโยงกับความทรงจำที่มีความสุขในอดีตได้ อาจเป็นบรรยากาศอบอุ่นของคริสต์มาสปีที่แล้ว หรือการแสดงละครวันคริสต์มาสในโรงเรียนกับเพื่อนๆ การ์ตูนและภาพยนตร์เรื่องโปรดที่เคยได้ดูในคืนคริสต์มาส หรือการได้ใช้เวลากับครอบครัวในช่วงวันหยุด เพลงทำให้ความรู้สึกเหล่านี้กลับมาอีกครั้งเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวาน จึงไม่แปลกใจที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจและย้อนกลับไปในความทรงจำดีๆ เหล่านั้นอีกครั้ง 

 

นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University) ประเทศแคนาดา ได้ทำการทดลองและได้ผลว่า เมื่อผู้คนฟังเพลงคริสต์มาส พวกเขาจะนึกถึงความทรงจําที่มีความสุขได้ภายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้การทดลองของไบรอัน (Brian Rabinovitz) อาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิลเลียม แอนด์ แมรี่ (College of William & Mary) ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังบอกได้ว่า เพลงคริสต์มาสจะพุ่งเข้ามาในสมองส่วนเก็บความทรงจำของเรา เราอาจรู้สึกหิวอย่างไม่ตั้งใจเมื่อเพลงดังขึ้น เพราะนึกถึงมื้อค่ำที่กินกับครอบครัวเมื่อปีที่แล้ว 

 

#แล้วความทรงจำที่ไม่ดีล่ะ?

 

สก็อต แบ (Scott Bea) นักจิตวิทยาคลินิก จากคลินิก คลีฟแลนด์ (Cleveland) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของเพลงคริสต์มาสว่า เพลงคริสต์มาสสามารถนำเอาความทรงจำที่ไม่ดี ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตให้กลับมาได้เช่นกัน ดังนั้นใครที่มีเหตุการณ์ที่ไม่ดี ที่ส่งผลลบต่อจิตใจในช่วงคริสต์มาส เช่น ทะเลาะกับใครสักคนเมื่อปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุช่วงวันหยุด ฯลฯ เพลงคริสต์มาสก็สามารถทำให้รู้สึกแย่ได้ เพราะไปดึงความทรงจำเหล่านี้กลับมานั่นเอง

 

#เพลงคริสต์มาสคือสัญญาณของการหยุดยาว

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกดีเมื่อฟังเพลงคริสต์มาส แม้จะเริ่มเปิดขึ้นในช่วงต้นธันวาก็ตาม นั่นเป็นเพราะเราจะรับรู้ได้ว่า วันหยุดยาวใกล้จะมาถึงแล้ว และเราจะได้พักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งปี เสมือนเป็นการให้รางวัลกับตัวเองหลังจากผ่านชีวิตมาอย่างหนักหน่วง ดังนั้นแค่ได้ยินเสียงเพลงคลอมาเบาๆ หัวใจก็ตูมตาม รอให้วันหยุดมาถึงไวๆ แล้ว

 

แต่ถ้าเรามีแนวโน้มที่จะไม่ได้หยุดยาวในช่วงคริสต์มาสนี้ เช่น ต้องเรียนชดเชย ต้องทำงานเสริม หรือทริปที่

แพลนไว้กับครอบครัวไม่เป็นไปตามคาดหวัง เพลงคริสต์มาสก็อาจกระตุ้นความรู้สึกเศร้ากับเราได้ 

 

#บรรเทาความเครียด 

จังหวะสนุกสนานจากเพลงคริสต์มาสช่วยบรรเทาความเครียดของเราได้ เราจะรู้สึกเพลิดเพลินเมื่อฟังเพลงคริสต์มาส มีการวิจัยที่พบว่าร้านค้าที่เปิดเพลงคริสต์มาสจะทำให้คนสนุกกับการช้อปปิ้งมากขึ้น เพราะฉะนั้นอาจต้องระวังกันหน่อย เพราะถ้าใช้จ่ายเพลิน จากบรรเทาความเครียดก็อาจกลายเป็นความเครียดขึ้นมาแทน

แต่สำหรับบางคนนั้น เพลงคริสต์มาสก็ก่อให้เกิดความเครียดได้ เพราะนำมาซึ่งความกดดันเกี่ยวกับวันหยุดที่จะมาถึง อาจเป็นแพลนวันหยุดที่ยังไม่ได้วาง งานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อย ใครที่ชอบตกแต่งห้องนอนช่วงคริสต์มาสก็อาจเผลอรู้สึกกดดันที่จะต้องตกแต่งออกมาให้สวยสมบูรณ์แบบ 

 

ทั้งหมดนี้คือพลังมหัศจรรย์แห่งบทเพลงคริสต์มาส ที่อาจส่งผลกับอารมณ์และความรู้สึกของเราทั้งเชิงบวกและเชิงลบ  หากเราสำรวจตัวเองแล้วพบว่า “ฉันรู้สึกไม่โอเคเมื่อได้ยินเพลงเหล่านี้” ลองใส่หูฟังเปิดเพลงอื่นๆ เมื่อได้ยินเพลงนี้ หรือหลบออกจากบริเวณนั้นชั่วคราว หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจหาอะไรทำเพื่อเปลี่ยนจุดโฟกัส และหากรู้สึกไม่โอเคจริงๆ ก็สามารถที่จะพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจเกี่ยวกับความรู้สึกเศร้าที่เกิดขึ้นได้ 

 

ไม่เป็นไรเลยหากเราจะรู้สึกแย่กับเทศกาล ไม่จำเป็นที่เราจะต้องบีบบังคับตัวเองให้สนุกสนานรื่นเริงเช่นคนอื่นๆ เพราะแต่ละคนมีช่วงเวลาแห่งความสุขที่แตกต่างกัน ความสงบและห้องที่เงียบสงัดอาจเป็นที่ที่เรามีความสุขก็ได้ ลองค้นหาช่วงความสุขและกิจกรรมที่ทำให้หัวใจฟูด้วยตัวเอง ไม่แน่ว่าคริสต์มาสปีนี้เราอาจค้นพบอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน แล้วเสียงเพลงจากคริสต์มาสปีหน้าอาจพาเรากลับมาที่ความทรงจำแสนตื่นเต้นนี้อีกครั้ง 

 

อ้างอิง

https://www.narcity.com/listening-to-christmas-music-is-actually-good-for-your-mental-health

https://www.washingtonpost.com/graphics/2019/entertainment/holiday-music-popularity/

https://www.popsugar.com/entertainment/listening-to-christmas-music-makes-you-happy-46874621

https://health.clevelandclinic.org/does-that-early-holiday-music-make-you-happy-or-bring-out-the-bah-humbugs/


avatar-ผู้เขียน
พัชรพร ศุภผล ผู้เขียน

ใช้แมวเป็นวิตามิน มีร้านหนังสือและแกลอรี่อาร์ตเป็นพื้นที่ปลอดภัย รักเจ้าชายน้อยและคิดว่าตัวเองก็คงมาจากดาวb612 เช่นกัน

avatar-นักออกแบบภาพ
สาธิดา ราหุละ นักออกแบบภาพ

ทาสแมวที่วาดรูปได้นิดหน่อย รื่นรมย์กับคราฟต์เบียร์ การเดินทาง และศิลปะ

Tag :