“เจอเรื่องเฟลหนักๆ มา แค่ทำปากกาตกก็อยากร้องไห้แล้ว”
เพราะชีวิตมันไม่มีอะไรง่ายเลย ไม่แปลกอะไรหากเราจะท้อจนน้ำตาเอ่อ
วันที่คะแนนสอบไม่ดีพอจะสมัครขอทุน วันที่สอบไม่ผ่าน วันที่สมัครเรียนตามความตั้งใจไม่ได้ วันที่ตกรอบสัมภาษณ์ วันที่ทะเลาะกับเพื่อน วันที่แฟนบอกเลิก วันที่อาจไม่ได้เรียนต่อเพราะที่บ้านติดหนี้ วันที่คนในครอบครัวล้มป่วย ฯลฯ
.
ความพังของคนเรามันวัดกันไม่ได้หรอกว่าใครพังกว่าใคร เรื่องบางเรื่องอาจเป็นดูเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับคนอื่น แต่มันอาจเป็นเรื่องใหญ่สุดๆ สำหรับเราก็ได้
“เก่งมากแล้วนะตัวฉัน ที่ยังอยู่มาได้จนถึงตอนนี้”
“ประคองตัวเองให้ผ่านวันๆ นึงมาได้ ก็เยี่ยมมากแล้ว”
ใช่ บอกตัวเองอย่างนี้เรื่อยมา และคิดว่าก็คงทำได้แค่นี้
จนมันถึงวันที่ชีวิต ‘พังแบบไม่มีอะไรกั้น’ เราจะทำยังไงต่อดี วันนี้พี่ๆ a-chieve มีแนวทางมาบอก
ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ประคองตัวเองไปด้วยกันนะ 🙂
.
.
1. รับรู้อารมณ์ความรู้สึก
ปุบปับจะดีดนิ้วแล้วหายเลยมันก็เป็นไปไม่ได้หรอก ลองให้เวลาตัวเอง กลับมาอยู่กับตัวเอง ใช้โอกาสนี้พูดคุยกับตัวเองดูว่า ตอนนี้เราเกิดความรู้สึกอะไรบ้าง มันอาจมีเรื่องมากมายตีกันวุ่นวายจนปวดหัว แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆ เช็กตัวเองทีละนิด อาจเขียนความรู้สึกที่มีลงในกระดาษก็ได้ ว่าตอนนี้ เศร้าแบบที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ โกรธแทบบ้า ผิดหวังจนหมดแรง กลัวจับใจ ฯลฯ
🪴 การระบุกับตัวเองได้ว่าเราเกิดความรู้สึกอะไรบ้าง จะเป็นขั้นแรกของการดูแลตัวเองล่ะ ฟังดูง่าย แต่เอาเข้าจริงเวลาใจสลาย คนเราก็ไม่อยากนึกทำอะไรแล้ว แต่ไม่เป็นไรนะ ให้เวลาตัวเองได้ระบายความรู้สึกมากมายออกมาก่อน อย่าลืมใจดีกับตัวเองด้วยนะ
.
2. ลำดับเหตุการณ์ จัดเรียงความสำคัญ
เมื่อรับรู้ความรู้สึกที่มีและพร้อมไปต่อในขั้นต่อไปแล้ว ให้ลองทบทวนดูว่า “เกิดอะไรขึ้นบ้าง” ลองเรียงลำดับเหตุการณ์ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แยกแยะว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือความคิดเห็น หรือสิ่งที่เราอาจตีความนึกเอาเอง
🪴 การเรียบเรียงสถานการณ์จะช่วยให้เราเห็นภาพรวม เห็นความเชื่อมโยง รวมถึงเห็นจุดที่ต้องเข้าไปจัดการดูแลได้ชัดเจนขึ้น ขั้นตอนนี้หากยังไม่มั่นใจ อาจลองหาเพื่อนสนิทที่วางใจได้ มาช่วยฟังเราเล่า เพื่อทวนความคิดก็ได้
.
3. ดูแลตัวเองแบบระยะสั้นและระยะยาว
เมื่อเห็นภาพรวมแล้ว เราจะเริ่มรู้ว่าเรื่องไหนเร่งด่วน เรื่องไหนรอได้ เรื่องไหนที่เราสามารถ/ ไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ เพื่อเริ่มดูแลหัวใจที่แหลกสลายของตัวเอง
🪴 การดูแลตัวเอง (Self-care) สามารถทำหลายๆ วิธีไปพร้อมกันได้ เช่น
- ดูแลร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย, พักผ่อนให้เพียงพอ, พาตัวเองไปเจอแสงแดดอ่อนๆ กระตุ้นความสดชื่น
- ดูแลจิตใจ พูดคุยกับเพื่อนสนิท คนที่เราไว้ใจ หรือนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อระบายความรู้สึกที่มี ขอคำปรึกษา หรือเยียวยาบาดแผลในใจ เป็นต้น
- ดูแลจิตวิญญาณ พาตัวเองกลับมาทบทวนคุณค่าในตัวเอง ว่าเราเองก็มีดีไม่น้อยกว่าใคร การเจอปัญหาหรือภาวะหนักๆ ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่บอกเราว่า “ฉันเก่งและแกร่งพอ ที่จะดูแลและรับมือกับเรื่องยากขนาดนี้แล้ว”
.
4. สื่อสาร ขอความช่วยเหลือ
ในวันที่โลกถล่มลงมาจนชีวิตพังทลาย เราอาจมองว่าตัวเองไม่เหลือใครอีกแล้ว แต่มันไม่จริงเลย! ยังมีคนที่รักและปรารถนาดีกับเราอย่างมากมายอยู่รอบๆ ตัว
🪴 อาจต้องเผื่อใจไว้ซักหน่อยนึงว่า ในจังหวะที่เราสื่อสารความช่วยเหลือไป เขาหรือเธอคนนั้นอาจไม่สามารถซัพพอร์ตเราได้ในทันที แต่เราสามารถให้โอกาสพวกเขาเหล่านั้นได้ดูแลเราได้ ดังนั้น ขอให้อดทนรอต่ออีกซักหน่อย อย่าเพิ่งถอดใจนะ
.
.
สิ่งสำคัญคือ
#การให้เวลาและใจดีกับตัวเอง
อย่าเผลอเร่งรีบให้ตัวเองแข็งแรงจนกลายเป็นฝืนหรือทำอะไรเกินตัว เพราะเรื่องที่เราเจอมันต้องใหญ่มากพอจะส่งผลรุนแรงให้หัวใจของเราแหลกสลายจริงๆ มันจำเป็นมากๆ ที่ต้องมีระยะเวลาเพื่อเยียวยาให้ฟื้นตัวกลับมาใหม่
นอกจากนี้ ระหว่างที่ดูแลตัวเอง ก็เป็นเรื่องปกติถ้ามันจะเกิดความรู้สึกเศร้า ซึม หรือหวนคิดถึงเหตุการณ์นั้นๆ จนดำดิ่ง จมกับความรู้สึกที่ถาโถมอีก แต่ก็ไม่เป็นไรเลย ขอให้เราซื่อสัตย์กับตัวเอง เศร้าก็ยอมรับว่าเศร้า เหนื่อยก็บอกได้ว่าเหนื่อย ไม่ไหวก็ยอมรับอย่างซื่อตรงว่าไม่ไหว
.
#พาตัวเองไปหาพื้นที่ปลอดภัย
ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะดูแลตัวเองยังไง a-chieve อยากชวนให้มองหาพื้นที่ปลอดภัยที่พร้อมรับฟัง และอนุญาตให้เราได้เป็นตัวเองในจุดที่เปราะบางมากๆ นี้นะ
อาจเริ่มจากการใช้เครื่องมือสำรวจอารมณ์ (คลิกจ้า https://a-chieve.org/auth/login?redirect=/emotion-survey) ก็ได้