จะจัดการความสับสนยังไง ในวันที่กลัวหลงทาง

.

ในชีวิตของเรามักมีช่วงเวลาให้ต้องตัดสินใจอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เรื่องทั่วไปอย่างการแต่งตัวออกไปเจอเพื่อน หรือ ‘พักเที่ยงนี้จะกินอะไรดีนะ’ และอีกมากที่เป็นโอกาสให้เราได้ลองผิดลองถูก ค้นหาสิ่งที่ถูกใจตัวเองไปในทุกวัน แต่สำหรับบางเรื่องนั้นก็ช่างสำคัญมากเหลือเกิน จนเรากังวลว่าถ้าตัดสินใจผิดพลาดไปแล้ว จะส่งผลกับชีวิตของเราในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกสายการเรียน หรือคณะที่ตัวเองสนใจ

.

เพราะบางครั้งแค่ความชอบ ก็อาจตอบคำถามในใจเราไม่ได้ว่า “ฉันเลือกสิ่งนี้ดีไหมนะ” และสิ่งที่ชอบก็อาจไม่ได้มีแค่ 1 ตัวเลือก ดังนั้นถ้าน้อง ๆ กำลังรู้สึกว่า การตัดสินใจเลือกสายการเรียน/ สาขาวิชา/ คณะ ในครั้งนี้มีตัวเลือกที่ชวนให้เราสับสน ไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่าจะเลือกไปทางไหนดี วันนี้พี่ a-chieve มีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยจัดการความสับสนและทำความเข้าใจตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ขอเพียงหายใจเข้าลึกๆ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย แล้วลองมาพูดคุยกับตัวฉันที่อยู่ข้างในเพื่อตัดสินใจเรื่องยาก ๆ เช่นนี้ไปด้วยกัน

1. ยอมรับความรู้สึกในใจ

เปิดประตูบานแรกในใจของเราด้วยการยอมรับอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะนั้น รับรู้ว่าเรากำลังสับสน กำลังวิตกกังวล กำลังกลัว หรืออาจมีหลากหลายความรู้สึกปะปนกันไปก็ได้ เมื่อรับรู้แล้วว่าตอนนี้จิตใจของเราเป็นอย่างไร ก็บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไรนะถ้าจะเรารู้สึกแบบนั้น ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป มีทางออกรออยู่ข้างหน้า ให้เวลาตัวเองหน่อยนะ 

.

2. ระบุสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกชัดเจนขึ้น

ถึงแม้จะคล้ายๆ กับการยอมรับว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง แต่การระบุออกมาให้ชัดว่า “อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น” ก็สำคัญมาก เพราะจะทำให้เรามองเห็นสาเหตุ และหาวิธีรับมือกับเจ้าก้อนสาเหตุนั้นได้ดีขึ้น โดยเราสามารถเขียนออกมาเป็นข้อๆ บรรยาย หรือเล่าให้คนที่เราไว้ใจฟังได้นะ แต่จะดีมากเลยล่ะถ้าผู้ฟังของเราสามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เราพูดออกไปนั้นมีอะไรบ้าง (แต่ขอให้เขาฟังและสะท้อนสิ่งที่เราพูดออกไปก่อนนะ อย่าเพิ่งช่วยเราตัดสินใจว่าอะไรดีไม่ดี แต่มอบโอกาสให้เราได้สำรวจความรู้สึกของตัวเองก่อน) เช่น ความกลัวของเราครั้งนี้มาจาก กลัวว่าสิ่งที่เลือกจะไม่เหมาะกับเรา กลัวจะเรียนไม่ไหว กลัวว่าจะสอบไม่ติด สับสนว่าตัวเองชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน ฯลฯ เมื่อระบุที่มาของความรู้สึกได้แล้ว ก็ไปต่อที่การหาคำตอบกันเลย

.

3. หาคำตอบให้ตัวเอง

เมื่อเรารู้แล้วว่าสิ่งที่เรากังวล สับสน ไม่มั่นใจ มีเรื่องอะไรบ้าง ก็ลองมาไล่หาคำตอบทีละข้อว่าเราจะจัดการกับความรู้สึกนั้นอย่างไรดี ซึ่งมีอยู่หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับคำถามที่เรามีในใจ เช่น 

- สับสนว่าตัวเองชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน 
ลองดูทางเลือกที่มีอยู่ในมือ หรือสิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้ ว่ามีทางเลือกไหนบ้าง แต่ละทางเลือกมีข้อดี ข้อเสีย ยังไง ข้อมูลที่ยังขาดอยู่เพื่อใช้ในการตัดสินใจคืออะไรบ้าง แล้วหาเพิ่มเติมให้รู้สึกว่ามีข้อมูลมากพอ 
- กังวลว่าจะสอบไม่ได้ หรือเรียนไม่ไหว  
วางแผนการอ่านหนังสือ ติวหนังสือ ลิสต์ทางแก้ออกมาเป็นข้อๆ เช่น ไปปรึกษาคนที่รู้เรื่องนี้, ไปถามคนที่เคยเรียนมาก่อน, ลองไปเรียนคอร์สสั้นๆ หรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้ให้เรามั่นใจในการเตรียมความพร้อมมากขึ้น รวมถึงการออกแบบแผนสำรองให้ตัวเอง

- สับสนว่าจะเลือกตามสิ่งที่พ่อแม่กำหนดให้ หรือสิ่งที่ตัวเองชอบดี  
มองหาวิธีที่ทำให้เราคลายความสับสนนี้ได้ เช่น คุยกับพ่อแม่ ฟังความคิดเห็นของพ่อแม่และเสนอความเห็นของเรา 

.

4. วางแผน

เมื่อรู้แล้วว่าอะไรที่จะทำให้เราคลายความกังวลหรือสับสน และตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้น ก็ให้กำหนดแผนพร้อมระยะเวลาในการลงมือทำให้ชัดเจน และถ้าระหว่างนั้นค้นพบคำตอบใหม่ๆ ให้ตัวเอง หรือรู้สึกว่าแผนนี้ไม่ได้ผลตามที่คาดคิดไว้ ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนแผนใหม่ได้เสมอ

5. ให้เวลาตัวเองทำตามแผน

ทำใจสบายๆ ค่อยๆ ให้เวลาตัวเองในการทำตามแผนที่วางไว้ เพื่อค้นคำตอบหรือสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น ไม่ต้องเร่งรัด แต่ขอให้จริงจังกับการทำอย่างตั้งใจและต่อเนื่อง เราอาจทบทวนตัวเองหลังจากลงมือทำตามแผนไปแล้วระยะหนึ่งว่า ตอนนี้เราคลายความกังวลหรือความสับสนลงไปบ้างไหม และไม่เป็นไรถ้าจะพบว่าเรายังรู้สึกเหมือนเดิม ขอให้ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าคำตอบที่ชัดเจนจะมาปรากฏตรงหน้าเราแน่นอน

.

.

เราเข้าใจดีว่า ทุกการตัดสินใจของน้องๆ เป็นก้าวแรกของการออกเดินทางที่ยิ่งใหญ่ พี่ๆ ทีมงาน a-chieve ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังยืนอยู่บนทางแยกแห่งการตัดสินใจนี้ ได้ค้นพบคำตอบที่ใช่ของตัวเองในเร็ววัน และที่สำคัญคืออย่าเพิ่งท้อใจหรือล้มเลิก กอดตัวเองแน่นๆ และบอกตัวเองว่า เส้นทางของการค้นหาตัวเองมันเกิดขึ้นตลอดชีวิต เราทำได้เต็มที่เท่าที่เราทำได้ในโอกาสและจังหวะวันนี้ ทุกประสบการณ์ที่เราได้ทดลองไม่มีการสูญเปล่า ค่อยๆ ออกเดินไปตามเส้นทางที่เราเลือกในตอนนี้ ไปอย่างวางใจในตัวเองนะ