เคยสังเกตอารมณ์ของตัวเองกันไหมนะ ว่าในแต่ละวันอารมณ์ของเราเป็นยังไงบ้าง
ถ้าน้องๆ รู้สึกสุขบ้าง เศร้าบ้าง เฉยชาบ้าง มีขึ้นๆ ลงๆ แต่ก็กลับมาสู่โหมดชีวิตปกติ ไปโรงเรียน เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อน รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ แบบนี้จัดว่าเป็นสภาวะอารมณ์ปกติทั่วไปของมนุษย์
แต่ถ้าน้องๆ มีความรู้สึกว่า ตัวเองรู้สึกเศร้าจนไม่อยากจะทำอะไรเลยติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้อาจรู้สึกสนุกสุดเหวี่ยงมาก่อน ก็เป็นไปได้ว่าอารมณ์ของเรานั้นอาจแปรปรวน มีความผิดปกติบางอย่างและเข้าข่ายไบโพลาร์ก็ได้
#ชวนสำรวจตัวเองเบื้องต้น
a-chieve จึงอยากชวนน้องๆ มาทบทวนอารมณ์และพฤติกรรมที่ผ่านมา ของตัวเองว่าเรากำลังเข้าข่าย โรคไบโพลาร์ อยู่หรือเปล่านะ
.
.
โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว
คือ โรคที่ส่งผลให้มีความผิดปกติทางอารมณ์ คนที่เป็นโรคนี้จะมีช่วงอารมณ์ซึมเศร้า (Major depressive episode) และช่วงอารมณ์ดี ร่าเริงเกินปกติ หรือเรียกอีกอย่างว่าช่วงแมเนีย (Mania หรือ Hypomania) สลับกันไปมา
คนทั่วไปมักคิดว่า ถ้าเป็นไบโพลาร์จะต้องเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย อารมณ์แปรปรวนง่ายในหนึ่งวัน ซึ่งขอบอกว่าไม่จริงเลย เพราะช่วงอารมณ์ที่ว่าอาจทำให้เรารู้สึกเศร้ายาวนาน 1 - 2 สัปดาห์แล้วกลับมาสู่ช่วงร่าเริงสนุกสนาน (เกินกว่าช่วงอารมณ์ปกติ) หรืออาจทิ้งห่างกันเป็นเดือน หรือมีช่วงอารมณ์ปกติคั่นกลางก็ได้เหมือนกัน
.
สำหรับเครื่องมือที่เราจะชวนน้องๆ สำรวจอารมณ์ตัวเองนี้ มาจากแบบทดสอบกลุ่มอาการไบโพลาร์ของ สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Psychiatric Association) ซึ่งมี 2 ช่วงอารมณ์ให้น้องๆ ได้ลองทบทวนดูว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ น้องๆ มีความรู้สึกและพฤติกรรมทั้งตอนที่เศร้าและตอนที่สนุกสนานเหล่านี้บ้างหรือไม่ แล้วมาอ่านผลในตอนท้ายของแบบทดสอบกันนะ
ถ้าพร้อมแล้ว มาสูดหายใจลึกๆ แล้วสำรวจตัวเองกันเลยจ้า
1. ฉันรู้สึกหดหู่ เศร้าเสียใจง่าย ร้องไห้บ่อย
2. ฉันรู้สึกเบื่อ ความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบทำลดลง
3. ฉันกินน้อยลงหรือมากขึ้น
4. ฉันนอนไม่ค่อยหลับหรือนอนมากเกินไป ตื่นยาก
5. ฉันง่วงตลอดวัน
6. ฉันรู้สึกเหนื่อยล้า หมดพลัง
7. ฉันรู้สึกตัวเองไร้ค่า
8. ฉันคิดและตัดสินใจช้า สมาธิลดลง
9. ฉันคิดวนซ้ำๆ เกี่ยวกับความตายหรืออยากหายไปจากโลกใบนี้
หากมีอาการเหล่านี้ในช่วงอารมณ์ซึมเศร้า 5 ข้อขึ้นไปติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หมายความว่าเราอาจอยู่ในช่วงอารมณ์ซึมเศร้า (Major depressive episode)
1. ฉันมั่นใจในตัวเองมากกว่าปกติ ร่าเริง คึกคักเป็นพิเศษ
2. ฉันไม่ค่อยรู้สึกง่วง แม้นอนดึกหรือนอนน้อยแต่ก็มีพลัง ไม่อ่อนเพลีย
3. ฉันพูดมาก พูดเร็วกว่าปกติ
4. ฉันความคิดพรั่งพรู คิดไว
5. ฉันไม่มีสมาธิ หลุดโฟกัสได้ง่าย
6. ฉันสนใจและทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น
7. ฉันขาดการยั้งคิดและทำกิจกรรมที่เสี่ยงมากขึ้น เช่น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ขับรถเร็ว หนีคาบเรียน
.
หากมีอาการเหล่านี้ในช่วงอารมณ์ดี ร่าเริงเกินปกติ 3 ข้อขึ้นไป ติดต่อกันอย่างน้อย 4 วัน หมายความว่าเราอาจอยู่ในช่วงอารมณ์ดี ร่าเริงเกินปกติ (Mania หรือ Hypomania)
.
ซึ่งหากเราสำรวจตัวเองและพบว่า ที่ผ่านมามีช่วงที่อยู่ในอาการซึมเศร้าและช่วงอารมณ์ดี ร่าเริงเกินปกติ ตามเช็กลิสต์ด้านบน แปลว่าเราอาจมีภาวะบางอย่างที่เข้าข่ายโรคไบโพลาร์
.
อย่างไรก็ดี แบบทดสอบนี้เป็นเพียงเช็กลิสต์เบื้องต้นเพื่อสำรวจอารมณ์ของเราเท่านั้น #ไม่ได้เป็นการตัดสินหรือวินิจฉัยว่าเรากำลังเป็นโรคไบโพลาร์ หากเราสงสัยว่าตัวเองมีอาการเข้าข่ายโรคไบโพลาร์ ขอแนะนำให้พูดคุยกับคนที่ไว้ใจแล้วเข้าพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้แม่นยำ
.
น้องๆ ไม่ต้องกังวลนะว่าผู้คนรอบข้างจะมองว่าเราแปลกหรือผิดปกติ เพราะการพูดคุยกับจิตแพทย์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราใช้ดูแลจิตใจ ไม่ต่างจากเวลาเราเจ็บป่วยหรือไม่สบายที่ก็ต้องไปหาหมอเหมือนกัน ถือว่าเรากำลังมอบความรักและใจดีกับตัวเองในรูปแบบหนึ่ง
พี่ๆ a-chieve ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน ก้าวผ่านทุกสภาวะอารมณ์ ทุกความรู้สึก และได้กลับมาตั้งต้นที่จุดเบาใจและปลอดภัยของตัวเองนะ :)
.
.
อ้างอิง
American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (DSM-5). Washington, D.C.: American Psychiatric Association.