เธออาจต่อสู้กับความรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่เก่งหรือไม่ดีพอมาเป็นเวลานาน
เธอมีคำถามว่า เธอจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ไหม
ความภาคภูมิใจในตัวเองที่น้อยลงในทุกวันทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเอง
.
มันเป็นช่วงเวลาที่หนักและหน่วงที่ใจเลยใช่ไหม ไม่ใช่แค่เธอ แต่ยังมีอีกหลายคนที่กำลังเจอภาวะยากๆนี้ และกำลังพยายามหาทางประคองใจตัวเองอยู่
จากประสบการณ์การทำงานกับเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เรามีโอกาสได้เจอคนมากมายจากหลากหลายพื้นที่ ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน เราอยากบอกว่าความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดีนั้น “มันไม่จริงเลย” เราทุกคนล้วนเป็นคนสำคัญของโลกใบนี้เสมอ แม้บางครั้งจะมีวันที่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญพอ แต่โปรดรับรู้ว่า เราต่างเป็นคนสำคัญที่สุดของตัวเอง และความภูมิใจนั้น เราเพิ่มมันขึ้นมาได้ด้วยวิธีการทางจิตวิทยา ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อสร้างความภูมิใจและรักตัวเองให้มากขึ้น
1. ชื่นชมตัวเอง
วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเพิ่มความภูมิใจในตัวเอง คือ การจัดการกับความคิดเชิงลบที่ก่อให้เกิดความภูมิใจในตัวเองต่ำและชื่นชมตัวเองอยู่เสมอ สิ่งนี้ไม่ใช่การหลงตัวเอง แต่เป็นการมองหาข้อดีของตัวเองในทุกๆ วัน ลองยืนที่หน้ากระจก แล้วบอกออกไปว่าคนที่อยู่ตรงหน้าผ่านอะไรมามากมายแค่ไหน หรือทุกครั้งที่รู้สึกแย่กับตัวเอง ให้มองกลับไปหาข้อดีของตัวเอง เพื่อเตือนตัวเองว่า มีสิ่งดีๆ มากมายที่เราทำได้และเราเป็น และมันช่วยสนับสนุนให้เราเป็นเรามาได้จนถึงทุกวันนี้
2. สำรวจความคิดแง่ลบของตัวเอง
ลองสังเกตความคิดแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง ตัวอย่างเช่น เราอาจรู้สึกว่า “ฉันไม่เก่งพอที่จะทำอย่างนั้น” หรือ “ฉันไม่มีเพื่อน” เมื่อมีความคิดแง่ลบเช่นนี้เกิดขึ้น ลองจดบันทึกสิ่งที่คิดนี้ลงกระดาษแล้วลองมองหาหลักฐานที่ขัดแย้งกับความคิดเหล่านั้น “มีใครบ้างที่ใจดีกับฉันและฉันอยากขอบคุณ” เราอาจตั้งคำถามนี้เพื่อให้เห็นว่าความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่มีเพื่อน ที่เราสร้างขึ้นมา ไม่เป็นความจริงทั้งหมด
3. ลดเวลาเล่นโซเชียล
เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ดีและมีประโยชน์โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ใจอ่อนล้า หรือเมื่อเราต้องการจะเพิ่มความภูมิใจในตัวเอง ในโลกออนไลน์เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่แสดงด้านดีให้คนอื่นเห็น การคลิกหรือไถหน้าจอดูสิ่งเหล่านี้ มันง่ายมากที่จะทำให้เราเผลอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ลองหยุดพักจากโซเชียลมีเดียซักสัปดาห์ดู
(ตามรายงานของ Journal Social Media and Society ในการศึกษาผู้ใช้ Instagram 388 ราย พบว่า การเปรียบเทียบทางสังคมออนไลน์ส่งผลลบต่อคุณค่าในตนเอง และมีแนวโน้มที่ผู้เล่นโซเชียลมีเดียจะเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น)
4. เรียนรู้ที่จะยอมรับคำชม
หากรู้สึกว่า “ฉันไม่ควรได้รับคำชม” นั่นอาจเป็นสัญญาณของระดับความภูมิใจในตนเองต่ำ เราไม่ควรรู้สึกตึงเครียด บ่ายเบี่ยง หรือไม่สบายใจเมื่อมีคนชื่นชม การรู้สึกตัวว่าตัวเองคู่ควรที่จะได้รับคำชม จะเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เราอาจไม่ต้องรอให้ใครชื่นชมในสถานการณ์จริง ณ เวลานั้นก็ได้ เพียงเริ่มจากจินตนาการถึงคนที่เรารักและเคารพ กำลังชื่นชมเรา แล้วใช้เวลาซักนิดกล่าวขอบคุณพวกเขา
5. หันมาดูแลตัวเอง
ร่างกายและสมอง เป็นทรัพยากรที่ดีที่สุดที่เรามี ดังนั้น การดูแลพวกมันอย่างดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในแบบที่เราต้องการได้ การรู้สึกดีกับร่างกายต้องใช้เวลา พลังงาน และเงิน แต่เราสามารถตัดสินใจได้ว่าจะลงทุนอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ใช้เวลาว่างจากการเรียนออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน สะสมจนเป็นวินัยเล็กๆ ที่ทำทีละนิดแต่ต่อเนื่อง
6. ทำอะไรใหม่ๆ
บางครั้งการเห็นคุณค่าในตนเองต่ำก็แอบแวะเวียนมาหาเมื่อเรารู้สึกว่าชีวิตเราน่าเบื่อเหลือเกิน การตื่นเช้าไปโรงเรียนทุกวัน ต้องเรียนวิชาที่ไม่ชอบติดกันหลายชั่วโมง ชวนให้รู้สึกเบื่อและเศร้า ลองเพิ่มความหลากหลายให้กับชีวิตด้วยการเลือกงานอดิเรกใหม่ๆ หรือสร้างสรรค์อะไรบางอย่าง เช่น หากเรียนออนไลน์ก็ลองตกแต่งห้องใหม่ หาสิ่งของที่ชอบมาตั้งไว้ใกล้ๆ มุมที่เราเรียน ลองสุ่มเลือกอาหารกลางวันเมนูใหม่ๆ เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องซับซ้อน ขอแค่เพียงพอที่จะดึงเราออกจากความรู้สึกเดิมๆ ได้ การกระตุ้นสมองด้วยการมีส่วนร่วมกับสิ่งใหม่ๆ มีแนวโน้มจะทำให้เราสดชื่นมากขึ้น
.
.
ไม่มีอะไรจะช่วยให้เธอรู้สึกดีกับตัวเองได้เท่ากับการบรรลุเป้าหมาย แต่แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันสองวัน เธออาจต้องใช้พลังกายและพลังใจมหาศาลเพื่อทำมันให้สำเร็จ การจดบันทึกสิ่งที่เธอทำในแต่ละวันจะช่วยทำให้เธอรู้ว่า เธอทำมันได้
อย่างไรก็ตาม หากเธอรู้สึกว่ามันยากเกินไปที่จะดึงตัวเองขึ้นมาจากความรู้สึกแง่ลบ การขอความช่วยเหลือจากคนที่ไว้ใจก็เป็นสิ่งสำคัญและเธอสามารถทำได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด บอกพวกเขาเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอ อย่าลืมว่าเราทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะฟื้นฟูความภาคภูมิใจให้ตัวเองอย่างมหาศาล และเราต่างเป็นคนสำคัญของโลกใบนี้เสมอ
.
.
เครดิต
