คอนถี่ขนาดนี้ จะเอาเงินจากไหนก๊อนนนนนน!?!
ช่วงนี้มีศิลปินมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาสวัสดีไทยแลนด์เยอะมากๆ (และใช่จ้า ศิลปินไทยก็ไม่แผ่วเช่นกัน)
นอกจากมีข้อดีด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตแล้ว รู้หรือไม่ว่าแฟนคลับ แฟนเพลง ติ่ง บ้าน หรือทีมพ่อยกแม่ยกทั้งหลาย ก็ได้พัฒนาทักษะชีวิตที่น่าสนใจเพิ่มเยอะเลย
พี่ๆ a-chieve เลยอยากใช้โอกาสนี้มาลองชวนทุกคนทบทวนดูกันว่า การทำสิ่งที่สนใจ (ในกรณีนี้หมายถึงการไปคอนเสิร์ต) จะทำให้เราสามารถฝึกทักษะอะไรบ้าง พร้อมแล้ว ไปคอน เอ้ย ไปดูกัน 🙂
.
1. ทักษะการเจรจาต่อรอง
มีตั้งแต่การขออนุญาตที่บ้านว่าจะไปคอนเสิร์ต การขอเงินคุณพ่อคุณแม่ไว้ซื้อบัตรคอน หรือบางคนอาจต้องขอให้พ่อแม่ไปด้วย ทุกขั้นตอนล้วนต้องใช้ทักษะการเจรจา เพราะการไปคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง อาจดูน่าเป็นห่วงและน่ากังวลในสายตาผู้ใหญ่ (เอาจริงๆ เราเองก็กังวลด้วย) เพราะเป็นกิจกรรมที่เป็นที่รวมของฝูงชนจำนวนมาก ทั้งการเดินทาง เวลาจัดงาน สภาพความแออัด ฯลฯ แต่ถ้าใจมันเรียกร้อง ก็มีแต่ต้องใช้ทักษะนี้แหละ! (อะแฮ่ม… ไม่แนะนำให้ใช้การโกหกหรือพูดความจริงไม่หมดนะ เพราะเชื่อเถอะว่ายังมีคอนเสิร์ตและกิจกรรมดีๆ อีกมากมายที่รอให้เราไปร่วม ดังนั้นขอให้สื่อสารด้วยความจริงใจดีกว่าจ้า)
.
2. ทักษะการออมเงิน
เพราะทุกอย่างล้วนมีต้นทุน! นอกเหนือจากค่าบัตรเข้างานแล้ว ยังมีค่ากิน ค่าอยู่ (บางคนต้องมานอนค้าง เพราะบ้านไกล) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ฯลฯ ซึ่งอาจต้องเตรียมงบเผื่อสำหรับเสื้อผ้าหน้าผมและการอุดหนุนสินค้าศิลปินด้วย โอ้ววว จะทำยังไงดีให้มีเงินออมมากพอนะ? หนทางที่น่าจะเป็นไปได้จึงเป็นลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ บริหารงบที่มีให้งอกเงย และรักษาวินัยให้ต่อเนื่องนั่นเอง
.
3. ทักษะไอที
ทักษะสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสให้เราได้บัตรคอน หนีไม่พ้นทักษะด้านไอที มีชาวมัธยมหลายคนลงทุนศึกษาด้วยตัวเอง ว่าต้องใช้คอมพิวเตอร์แรมแบบใด ความเร็วอินเตอร์เน็ทเท่าไร ไปจนถึงคิดกลยุทธการกดบัตร ซึ่งแต่ละคอนเสิร์ตหรืองานแฟนไซน์ (Fansign) ก็อาจมีรูปแบบหรือระบบการซื้อบัตร ซื้อตั๋วไม่เหมือนกัน ใดๆ คือ พี่ๆ a-chieve ขอสนับสนุนให้เลือกวิธีการแบบที่ถูกต้องและถูกกฎหมายด้วยนะ!
.
4. ทักษะการคำนวณ การวางแผน และการจัดการ
จะบอกว่านี่เป็นทักษะที่ครอบจักรวาลการไปคอนเลยก็ว่าได้ ไล่มาตั้งแต่
- การวางแผนและจัดการจนได้บัตร แถมยุคสมัยนี้ที่นอกจากจะต้องแข่งกับเวลาแล้ว ยังต้องคอยระมัดระวังแก๊งมิจฉาชีพอีก ถือว่าได้ฝึกทักษะ Critical Thinking ควบคู่ไปด้วยเลย
- การวางแผนการเดินทาง จะโดยรถส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ จะมาจากต่างจังหวะหรือต่างประเทศ (ถ้าเป็นกรณีที่เราเป็นฝ่ายเดินทางไปหาศิลปิน จะเพิ่มความท้าทายด้านการจัดการขึ้นไปอีก) และไปจะกลับยังไงก็ยากต่างกันอีก เพราะขาไป คนอาจจะทยอยกันไปหลากหลายวิธี แต่ขากลับนี่สิ ที่เมื่อคอนเสิร์ตจบลง ทุกคนพร้อมกลับบ้าน อื้อหือออ บอกเลยว่าถ้าไม่รักศิลปินจริง ไม่ทำให้ขนาดนี้นะเนี่ย
- การวางแผนเรื่องการแต่งตัว ไม่จำเป็นต้องแต่งเต็มเสมอไป แต่อย่างน้อยเชื่อว่าทุกคนจะได้ฝึกวางแผนเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมแน่ๆ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของแต่ละคน
- การวางแผนดูแลและจัดการตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดในคอนเสิร์ต ข้อนี้อาจเริ่มตั้งแต่การรู้ผังคอนเสิร์ต เพื่อประเมินเวลาในการรันคิวบัตรหลุม ไหนจะเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่ โอ้โห คนเป็นล้าน ที่เราจะต้องฝ่าฝูงชนไปและกลับโดยสวัสดิภาพอีก
.
5. ทักษะการอยู่ร่วมกันคนหมู่มาก /มนุษยสัมพันธ์
ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับที่ไปกับกลุ่มเพื่อน ไปกับครอบครัว หรือเป็นสายลุยเดี่ยว ก็ล้วนแต่ต้องได้ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่ไม่เคยรู้จักกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจบัตร พนักงานขาย Official goods แฟนคลับที่เอาของสะสมมาแลกกัน เพื่อนใหม่ที่ฝากเฝ้าคิวตอนไปห้องน้ำ ไปจนถึงสถานการณ์ที่เราจะต้องอยู่กับคนมากมายในคอนเสิร์ต เช่น บัตรแบบหลุมที่คนจะเบียดกัน หรือบัตรแบบนั่งที่เราไม่สามารถเลือกหรือรู้ล่วงหน้าว่าคนข้างๆ จะเป็นใคร เขาจะเป็นแฟนคลับที่น่ารักหรือสร้างความอึดอัดใจให้กับคนรอบข้างไหม เป็นต้น
.
6. ทักษะการออกแบบ
ข้อนี้อาจขึ้นอยู่กับความสนใจของน้องๆ บางคน ที่อยากพัฒนาและอวดผลงานของตัวเอง ผ่านการออกแบบของแจก ของขาย หรือกระทั่งการใช้ความคิดสร้างสรรค์มาดีไซน์ชุดที่ใส่ไปในคอนเสิร์ต อย่างไรก็ดี ขอให้การแสดงความภาคภูมิใจนี้อยู่ในความพอดี ไม่เผลอไปเกะกะ รบกวนผู้อื่นหรือสถานที่จัดงานนะ
.
7. ทักษะภาษา
ไม่ว่าศิลปินจะเป็นคนชาติอะไรก็ไม่มีเหงาแน่นอน เพราะฉันคือคนไทยและคนไทยแปลว่าอิสระ ฉันร้องเพลงคุณได้ทั้งเพลง และบอกได้ว่าเพลงนี้ความมายคืออะไร นอกจากใจรักและความพยายามในการท่องเนื้อร้องตามเป๊ะๆ แล้ว แฟนคลับที่มีทักษะภาษานั้นๆ มีโอกาสได้กรี๊ดกร๊าดก่อนใคร เพราะเข้าใจภาษาเวลาศิลปินพูดแบบสดๆ แบบไม่ต้องรอล่ามเลย สุดเท่!
.
8. ทักษะการจำ
นอกจากการจดจำเนื้อเพลง (จะได้ร้องคู่กับศิลปินในดวงใจแบบเรียลไทม์) แล้ว ทักษะด้านการจำยังจำเป็นสำหรับแฟนคลับของศิลปินที่มีธรรมเนียมปฏิบัติเฉพาะ เช่น
- จำจังหวะการโบกบง (แท่งไฟ) เพลงไหนต้องโบกจังหวะไหน กดเปลี่ยนสีด้วยไหม
- จำท่อนแฟนช๊าน (Fanchants) เพลงท่อนนี้ เมื่อศิลปินร้องถึงคำนี้ แฟนคลับจะต้องร้องตอบเป็นเสียเดียวกันว่า “...”
.
.
ขอย้ำว่า นี่แค่ส่วนหนึ่งของทักษะชีวิตมากมาย ที่น้องๆ สามารถมีได้จากการทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อิน สิ่งที่สนใจ หากเราได้ทบทวนตัวเองแล้วและเห็นว่าทักษะที่มี มีความเหมาะสมกับคณะที่ใฝ่ฝัน และมีร่องรอย หลักฐานการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง พี่ๆ a-chieve ก็อยากเชียร์ให้ใส่เพิ่มลงไปใน Portfolio ของเราได้ด้วยนะ ยังไงกลับจากคอนแล้ว เราไปทำพอร์ตกัน! 🙂