แจก 3 วิธีการเล่าเรื่องสำหรับทำพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio)

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 09:32 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาที
ปก a-chieve.org (3).png

 

พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ใช้สำหรับการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในรอบการยื่นผลงาน

สิ่งสำคัญในการทำพอร์ตโฟลิโอ คือ การศึกษาเกณฑ์การทำพอร์ตของแต่ละคณะที่จะสมัครให้ละเอียดครบถ้วนก่อนที่จะลงมือทำ ไม่อย่างนั้น น้องๆ อาจจะพลาดโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์ได้

.

ตัวอย่างเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกำหนดไว้ มีดังนี้ 

- จำนวนเอกสารไม่เกิน 10 หน้ากระดาษ A4 (ไม่รวมปกและเอกสารประกอบการสมัครอื่นๆ)

- เอกสารภายในพอร์ตโฟลิโอ ควรเป็นเอกสารที่แสดงตัวตน ทักษะ ความรู้ความสามารถ การเข้าร่วมกิจกรรม การกระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมที่เป็นประจักษ์และอุทิศตนเพื่อส่วนร่วม 

- มีรางวัลเกี่ยวกับคณะที่สมัครย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี 

- สามารถออกแบบรูปแบบของแฟ้มประวัติและผลงานได้อย่างสร้างสรรค์และอิสระ 

.

หลังจากศึกษาเกณฑ์ได้ครบถ้วน ต่อมาก็คือ การออกแบบวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ สามารถดึงดูดความสนใจของกรรมการได้ ยกตัวอย่างเช่น 

1) การเรียงลำดับวิธีการเล่าเรื่องใหม่ อาจจะเรียงลำดับวิธีการเล่าเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องเอาประวัติส่วนตัวไว้ที่หน้าแรกก็ได้ 

2) การเพิ่มรายละเอียดในหัวข้อกิจกรรม เช่น การใช้วิธีการเขียนบรรยายเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองเพิ่มลงไป 

3) การสร้างธีมให้ตนเอง ใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างธีมสำหรับพอร์ตโฟลิโอ เช่น ธีมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ธีมผู้ประกอบการธุรกิจ ฯลฯ เพื่อให้การตกแต่งและการเล่าเรื่องของตนเองโดดเด่นไม่เหมือนใคร

.

วันนี้ พี่ๆ มีวิธีการเล่าเรื่องในรูปแบบต่างๆ มาฝาก เพื่อให้น้องๆ ลองไปปรับใช้กับการออกแบบพอร์ตโฟลิโอของตนเอง เพราะหากพอร์ตของเรามีการเล่าเรื่องที่ดี แสดงถึงความสร้างสรรค์ ความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และเชื่อมโยงกับคณะที่เราสมัครได้ เชื่อว่าคณะกรรมการจะต้องชื่นชอบและให้ความสนใจพอร์ตของเราอย่างแน่นอน! ไปดูวิธีการเล่าเรื่องกันเลย 🙂

.

.

วิธีการที่ 1: เล่าแบบ Hero’s Journey 

เป็นวิธีการที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของตัวละคร ที่ออกไปผจญภัยแล้วพบกับประสบการณ์ที่ไม่คุ้นเคย จนได้เรียนรู้และเกิดปัญญา จนกระทั่งหวนกลับคืนมาบอกเล่าเรื่องของตนเองให้ผู้อื่นฟัง 

💡 ตัวอย่างการเล่าเรื่องในพอร์ต :  

1) แนะนำประวัติส่วนตัว เช่น ชื่อ/ วันเดือนปีเกิด/ จังหวัดที่เกิด/ ลักษณะนิสัย/ ทักษะความถนัด

2) แนะนำประวัติการเรียน เช่น ชื่อโรงเรียนที่เรียนตั้งแต่ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา พร้อมทั้งเกรดเฉลี่ย

3) เขียนประสบการณ์ที่ได้พบเจอ หรือกิจกรรมที่เคยไปเข้าร่วมในช่วงเวลาที่ผ่านมา (พร้อมทั้งใส่ภาพกิจกรรมประกอบ) 

4) เขียนบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากแต่ละกิจกรรม และอธิบายเพิ่มเติมว่า บทเรียนนั้นทำให้ตัวเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เช่น “กระผม/ ดิฉันได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมนี้ว่า การหมั่นฝึกฝนพูดกับตัวเองหน้ากระจกทุกวัน ทำให้สามารถเอาชนะความกลัวที่จะพูดบนเวทีต่อหน้าคนอื่นได้”

5) เขียนอธิบายการเปลี่ยนแปลงของตัวเราให้เชื่อมโยงกับคณะที่เราสมัคร เช่น “การสามารถเอาชนะความกลัว เพื่อพูดบนเวทีต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำให้กระผม/ ดิฉันมีความมั่นใจในการออกหน้ากล้องมากขึ้น หรือ สามารถประสานกับคนอื่นๆ ได้อย่างไม่เขินอาย” (เหมาะสำหรับการยื่นสมัครคณะนิเทศศาสตร์) 

.

วิธีการที่ 2 : เล่าแบบ In Medias Res 

เป็นวิธีการเล่าแบบเอาท่อนกลางของเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าก่อน เพื่อดึงดูดความสนใจผู้อ่านให้มีส่วนรวมในการค้นหาคำตอบ ก่อนย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวที่เกิดอีกครั้ง 

💡 ตัวอย่างการเล่าเรื่องในพอร์ต : 

1) เริ่มต้นด้วยการเลือก 1 ประสบการณ์ที่น้องๆ เคยพบเจอ รู้สึกประทับใจ และเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกอยากเข้าคณะนี้ โดยนำมาเล่าไว้ที่หน้าเริ่มต้น พร้อมกับทิ้งคำถามในแนวทางว่า 

“อยากรู้จักกระผม/ ดิฉันมากขึ้น ลองเปิดหน้าต่อไป” เพื่อเป็นการเชื้อเชิญผู้อ่านให้เปิดหน้าต่อไป 

2) แนะนำประวัติส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล/ วันเดือนปีเกิด/ จังหวัดที่เกิด/ ลักษณะนิสัย/ ทักษะ-ความถนัด

3) แนะนำประวัติการเรียน เช่น ชื่อโรงเรียนที่เรียนตั้งแต่ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา พร้อมทั้งเกรดเฉลี่ย

4) เขียนย้อนเรื่องราวกลับไปเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงชั้นประถมศึกษา-มัธยมตอนต้น-มัธยมตอนปลาย ซึ่งเน้นไปที่การเล่าถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เราเคยได้ทำและทำให้เราค้นพบคณะที่ใช่สำหรับเรา 

.

วิธีการที่ 3 : เล่าแบบ False Start 

เป็นวิธีการเล่าเรื่องโดยหยิบมุมความขัดแย้งหรือความผิดพลาดมาเสนอตั้งแต่ต้นเรื่อง ที่สื่อให้เห็นว่าเราต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเริ่มต้นใหม่ เพื่อให้เห็นเส้นเรื่องของปัญหา จุดหักเห ที่นำไปสู่สิ่งใหม่ 

💡 ตัวอย่างการเล่าเรื่องในพอร์ต : 

1) เริ่มต้นด้วยการเลือก 1 เหตุการณ์ในชีวิตที่เป็นจุดหักเห ที่ทำให้เราเรียนรู้และอยากเริ่มต้นใหม่ เช่น “สมัยมัธยมต้น ผมติด ร. ทั้งหมด 5 วิชา เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจและผิดหวังมาก แต่ผมก็ได้เรียนรู้และก้าวข้ามเหตุการณ์นั้นมาได้ โดย …” 

2) เล่าเหตุการณ์/ กิจกรรมที่ทำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรื่อยๆ โดยที่ไม่ลืมเขียน

- ชื่อกิจกรรม 

- ปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ที่พบเจอ 

- วิธีการหรือความพยายามของตนเองที่ทำให้ผ่านอุปสรรคหรือเหตุการณ์นั้นไปได้ 

- บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์หรือกิจกรรมนั้น 

- ความเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้กับความสนใจที่อยากจะเข้าศึกษาต่อในคณะนี้ 

3) เขียนสรุปว่า “จากเหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมด ทำให้เรากลายมาเป็นตัวตนของเราในวันนี้ได้อย่างไร”  หรือเเขียนแนะนำประวัติส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล / วันเดือนปีเกิด/ จังหวัดที่เกิด/ลักษณะนิสัย/ทักษะ-ความถนัดของเราในปัจจุบัน

.

.

3 วิธีการเล่าเรื่องนี้เป็นไอเดียเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้ลองฝึกจินตนาการว่า หากเราสามารถออกแบบพอร์ตโฟลิโอของเราได้อย่างอิสระ น้องๆ จะวางโครงเรื่องอย่างไรเพื่อให้มีเนื้อหาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่คณะกรรมการต้องการ และรู้สึกประทับใจเมื่อได้เห็น

.

อย่างไรก็ดี ขอให้น้องๆ ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ของแต่ละคณะให้ดีก่อนเริ่มทำพอร์ตโฟลิโอ เพื่อให้ตอบเป้าและตรงจุดประสงค์ (และจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการทำหลายครั้งด้วยค่ะ 😩)

ขอส่งกำลังใจดวงโตๆ ให้น้องๆ ทุกคนเลยนะคะ 💕

.

.

อ้างอิง

https://www.runwisdom.com/2019/03/story-telling/



avatar-ผู้เขียน
ศุลีย์ภัสร์ หอมระรื่น ผู้เขียน

อยู่ได้ทุกที่ที่มีลาเต้เย็นหวานน้อยที่ถูกใจ

avatar-นักออกแบบภาพ
Jingle นักออกแบบภาพ

ถ้าถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วสบายใจ ตอบไม่ต้องคิดเลย..ที่นอน

Tag :

บทความแนะนำ

ไม่มีข้อมูล

กิจกรรมแนะนำ

ไม่มีข้อมูล