ในโลกนี้มีแบบทดสอบเยอะมาก ย้ำว่า-เยอะ-มาก!
ทั้งของต่างประเทศ ของคนไทย คิดโดยนักจิตวิทยา นักเขียน นักวิชาการ ทั้งแบบฉบับแปลหรือนำมาเรียบเรียง ตีความใหม่ แบบที่ทำออนไลน์ได้ แบบที่ต้องอ่านผลโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ฯลฯ ไล่มาจนถึงควิซเกมต่างๆ ที่เล่นกันขำๆ ในกลุ่มเพื่อน
ผลจากการทำแบบทดสอบมันน่าตื่นเต้นและชวนให้เราอยากทำสุดๆ
เพราะอยากรู้ว่าเราจะได้ผลว่าอะไร จะตรงหรือต่างกับที่เราคิดไหม หรือจะบอกเรื่องใหม่ๆ อะไรเกี่ยวกับเราบ้างนะ แถมแบบทดสอบบางอันมีรูปกราฟิกสวยๆ ที่เปลี่ยนตามผลแนบมาให้อีก เป็นใครก็อยากทำบ้าง
แต่ก็มีน้องๆ หลายคนที่แวะเวียนมาปรึกษาทีมงานเกี่ยวกับการทำแบบทดสอบ เพราะบางครั้งทำแล้วก็เป็นงงๆ รู้ผลแล้วไม่รู้จะยังไงต่อดี ผลที่ได้ใช้ทำอะไรได้บ้าง หรือรู้ไว้เฉยๆ ก็พอ มีบางคนเผลอเอาผลไปใช้ตอบในรอบสัมภาษณ์ ทำเอากรรมการอึ้งเพราะไม่รู้จักไปอีก เอ๋าาาา แล้วตกลงควรทำยังไงดีล่ะนี่??
วันนี้ a-chieve เลยมาขอแชร์ ‘4 เรื่องควรรู้ก่อนทำแบบทดสอบค้นหาตัวเอง’ กันค่ะ จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!
1. ถามตัวเองว่าเราอยากได้ผลไปทำอะไร
การมีเป้าหมายในใจชัดเจน จะช่วยให้เราสามารถเลือกแบบทดสอบที่เหมาะกับเรา เช่น หากอยากใส่ข้อมูลเพิ่มในพอร์ตโฟลิโอ แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีความถนัดหรือโดดเด่นด้านอะไร ก็ลองเลือกทำแบบทดสอบวัดความถนัดที่เชื่อถือได้ แล้วให้แปลงผลออกมาให้เรา
📍 คำถามสำคัญ คือ แล้วแบบทดสอบไหนนะที่เชื่อถือได้?
ข้อนี้อาจตอบได้ด้วยการตรวจสอบที่มาว่า ใครเป็นผู้คิดและออกแบบแบบทดสอบนั้น มีแหล่งอ้างอิงอะไรบ้าง มีข้อมูลด้านวิชาการรองรับหรือไม่ ความคิดเห็นจากผู้ที่เคยทำแบบทดสอบนั้นอย่างไรบ้าง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผลของแบบทดสอบเพียงชุดเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับอธิบายตัวตนของเรา a-chieve จึงอยากแนะนำให้นำผลที่ได้ไปต่อยอด ใช้เป็นแนวทางในการทำกิจกรรมหรือพัฒนาตัวเองต่อไป และอาจลองทำแบบทดสอบอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
2. คำตอบของเราอาจไม่ได้มาจากตัวเรา 100%
รู้หรือไม่ว่า การเลือกตัวเลือกในแบบทดสอบที่ทำไป บางครั้งเราก็ไม่ได้ตอบตามความเป็นจริง
ไม่ได้หมายความว่าเราโกหกหรอกนะ แต่เพราะมันมีความเป็นไปได้ว่า การตอบของเราอาจเกิดจาก…
- สิ่งที่เรารู้ว่าเราเป็น (ความจริงคือ เราเป็นเช่นนั้นจริงๆ)
- สิ่งที่เราคิดว่าเราเป็น (ความจริงแล้วเราไม่เป็นอย่างตัวเลือกนั้น แต่เราอาจเข้าใจผิด จำจากคำพูดที่คนอื่นมักบอกเรา เรายังไม่รู้จักตัวเองมากพอ หรือยังไม่พร้อมยอมเลือกข้อที่เป็นเราจริงๆ ก็ได้)
- สิ่งที่เราอยากเป็น (ความจริงคือ ยังเป็นไม่ได้ แต่ร่างกายตอบสนองกับตัวเลือกที่เราอยากเป็น เป็นอันดับแรก)
📍 ผลที่ได้จากการทำแบบทดสอบ มีส่วนช่วยให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้นก็จริง แต่อย่าเผลอรีบตัดสินหรือยึดติดกับผลที่ได้มากนัก เพราะมันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นแบบนั้นเสมอไป ควรใช้การทบทวนตัวเองอย่างต่อเนื่อง และการค้นหาตัวเองผ่านการทำกิจกรรมอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย
3. เวลาเปลี่ยน ผลอาจเปลี่ยน (หรือไม่เปลี่ยนก็ได้)
ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ล้วนมีเรื่องราวที่ส่งผลต่อมุมมอง ความคิด ความเชื่อของเราทั้งสิ้น ถึงแม้เราจะเป็นเราคนเดิม แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนล้วนเติบโตขึ้น มีบางอย่างคงเดิมและบางอย่างก็เปลี่ยนไปจากเดิม แน่นอน
สมมติว่า ถ้าเราทำแบบทดสอบชุดหนึ่งในช่วง ม.ต้น เราอาจได้ผลแบบหนึ่ง แต่เมื่อขึ้น ม.ปลาย ลองทำอีกครั้ง เราอาจได้ผลอีกแบบหนึ่ง
ที่เป็นเช่นนี้ อาจเกิดจากช่วงวัย ม.ต้น เราอาจให้ความสำคัญกับการเข้าหาเพื่อนใหม่ การสร้างตัวตนให้มีเอกลักษณ์ มีความสนใจพุ่งเป้าไปที่กิจกรรมที่ได้ออกแรง เลือดสูบฉีดเต็มที่ แต่พอขึ้น ม.ปลาย ชีวิตเรามีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ทั้งย้ายโรงเรียน เปลี่ยนสภาพแวดล้อม เพื่อนกลุ่มใหม่ รูปแบบและเนื้อหาการเรียนใหม่ ความคาดหวังและกดดันของช่วงวัยที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษามีความเข้มข้นขึ้น ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้เราเลือกตัวเลือกเดิมหรือไม่ซ้ำเดิมก็ได้
📍 ข้อแนะนำ คือ ให้ประเมินทั้งการเลือกช่วงเวลาและความถี่ในการทำแบบทดสอบ เพราะถ้าทำในระยะเวลาใกล้กัน ผลก็ออกมาน่าจะไม่ต่างกันนัก แถมแบบทดสอบบางอันก็มีค่าใช้จ่ายด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินและเสียเวลาทำโดยไม่จำเป็น
4. แบบทดสอบมีไว้ให้เราเห็นตัวเองเพื่อค้นหาและพัฒนาตัวเองต่อ
แบบทดสอบมีไว้เพื่อให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ตั้งแต่ระหว่างการทำ (เราลังเลกับการตอบคำถามข้อไหนบ้างนะ? เพราะอะไรนะ?) และตอนได้รับผลแล้ว
นอกจากนี้ ยังเป็นแนวทางให้เราใช้ค้นหาทางที่ใช่สำหรับเรามากขึ้น หรือใช้เป็นไอเดียเพื่อพัฒนาตัวเองต่อ ทั้งในด้านที่ถนัดและยังไม่ถนัด
📍 ข้อความระวัง คือ การไม่แปะป้ายตัดสินทั้งตัวเองและคนอื่น ว่า “อ๋อ! เพราะแบบทดสอบบอกว่าฉันไม่ถนัดเลข ฉันถึงทำสอบออกมาแย่ไง” หรือ “เพราะเธอเป็นอย่างที่แบบทดสอบว่า เธอเลยทำได้แค่นี้น่ะสิ” เพราะนั่นเป็นเพียงข้ออ้างให้เราหยุดพัฒนาตัวเอง เป็นการพูดตัดบทหรือด่วนสรุปเพื่อนว่าเขาต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้แน่ โดยที่เรายังไม่ได้ทำความเข้าใจตัวเขาจริงๆ เลย
ถึงจะดูจริงจังและต้องใช้ความระมัดระวังในการทำแบบทดสอบหรือควิซใดๆ แต่เราก็อยากเชียร์ให้ทุกคนได้เป็นตัวเอง และเลือกตอบในสิ่งที่เป็นเรามากที่สุด โดยไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าใครจะมาตัดสินเรานะ
ท้ายนี้ ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มทำแบบทดสอบอะไรดีเพื่อให้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น ลองไปที่ https://a-chieve.org/auth/login?redirect=/doll-activity ได้เลย
ขอให้เอ็นจอยกับการค้นหาตัวเอง รู้จักตัวเอง และพัฒนาตัวเองต่อไปนะคะ 🙂