แจกทริคเรียนยังไงให้ได้ดี ฉบับคนเรียน(ยัง)ไม่เก่ง

วันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 08:21 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาที
ปกเว็บ_1920x960 (8).jpg

 

พกใจมาเต็มร้อย แต่ก็ยังเรียนไม่รู้เรื่อง!

ต้องยอมรับว่าบางทีแค่ความตั้งใจอย่างเดียว ก็อาจไม่เพียงพอจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จในการเรียน วันนี้ a-chieve เลยขอมาแชร์ทริคเล็กๆ ให้คนที่กำลังสับสนงงงวยและเครียดกับการเรียน ได้ตั้งหลักฮึดสู้กันใหม่

จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

1_square (24).jpg

1. เลือกและเล็งเป้าหมายให้ชัด

มีคนบอกให้ฝันให้ไกล แต่เมื่อไหร่มันจะสำเร็จซักทีล่ะ?? หลายครั้งที่ความพยายามก็ไม่ได้ลงเอยที่ความสำเร็จเสมอไป เพราะเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปก็อาจบั่นทอนกำลังใจ และบางช่วงในชีวิตก็มีเรื่องให้ท้อใจจนต้องล้มเลิกกลางทาง 

การตั้งเป้าหมายที่ดี นอกจากจะทำให้เราไม่หลงทิศหลงทางแล้ว ยังช่วยให้เราโฟกัสได้ชัดขึ้นว่า เวลาไหนควรทำอะไร หรือยังไม่ควรทำอะไรด้วย

.

🌱 อยากตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงได้ ทำไงดี?

ลองใช้เครื่องมือช่วยตั้งเป้าหมาย อย่าง SMART Goal ดูนะ

     S - Specific เป้าหมายนั้นต้องมีความชัดเจน มีขอบเขตที่แน่ชัด (รู้ว่า ใคร-ทำอะไร-ที่ไหน-เมื่อไร-อย่างไร-เพราะอะไร)

     M - Measurable สามารถวัดได้ อ้างอิงหลักฐานได้ (ตัวชี้วัดความก้าวหน้าหรือความสำเร็จของเราคืออะไร ถ้าเราทำได้แบบนี้ แปลว่าเราพัฒนาขึ้นนะเนี่ย!)

     A - Achievable มีความเป็นไปได้ สมเหตุสมผล บนพื้นฐานเงื่อนไขที่มี (เรามีทุนหรือประสบการณ์เดิมยังไงบ้าง เป้าหมายนี้ท้าทายสำหรับเราในระดับที่เหมาะสมไหม เป้าหมายนี้ทำได้จริง ไม่ฝันฟุ้งไปใช่ไหม)

     R - Relevant สอดคล้องกับเป้าหมายหรือภาพฝันในระยะยาว (เป้าหมายนี้เชื่อมโยงกับความตั้งใจ สิ่งที่เราเชื่อถือและให้คุณค่า หรือดีต่อตนเองหรือสังคมอย่างไร)

     T - Timely มีระยะเวลาชัดเจน (เราตั้งใจจะทำเป้าหมายนี้นานเท่าไร คิดว่ามันจะสำเร็จเมื่อไร)

.

.

2. เตรียมตัวก่อนเรียน 

จะเป็นช่วงก่อนเริ่มต้นสัปดาห์ เปิดเทอมใหม่ หรือเริ่มปีการศึกษาใหม่ก็ได้ ลองดูเนื้อหาวิชาคร่าวๆ ให้พอเห็นภาพรวม เห็นความเชื่อมโยงและเห็นภาพว่าเนื้อหาบทไหนจะทำเราปวดหัวแน่ๆ จะได้เตรียมฮึบตั้งใจเรียนไว้แต่เนิ่นๆ 

.

🌱 เตรียมตัวก่อนเรียนให้ไม่เครียดจนเกินไป ทำไงดี?

     - ลองถามเทคนิคการเรียนจากรุ่นพี่ที่เรียนดีหรือถนัดวิชานั้นๆ

     - เสิร์ชในอินเตอร์เน็ทดูว่ามีใครเคยทำชีทสรุปวิชานั้นๆ แจกบ้างไหม ลองเข้าไปดูคร่าวๆ ให้เนื้อหาผ่านตาก่อน

     - จดเรื่องที่ไม่เข้าใจใส่ Post-it แปะไว้ในเนื้อหาหน้านั้นๆ เมื่อคุณครูสอน เราจะได้เห็นและถามเพิ่มได้เลย

.

.

3. โฟกัสในคาบอย่างเต็มที่ 

ใครๆ ก็บอกให้ “ตั้งใจเรียน” แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วการจะตั้งใจเรียนได้ มันต้องอาศัยทักษะหลายอย่างมากๆ เช่น ทักษะการฟัง ทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดเชื่อมโยง ทักษะการกล้าแสดงออก ทักษะการจดบันทึก ฯลฯ ซึ่งรวมแล้วนำไปสู่ทักษะการเป็นผู้เรียนเชิงรุก (Active Learner) 

.

🌱 อยากเป็นผู้เรียนเชิงรุก ทำไงดี?

     - คอยสังเกตตัวเอง ว่าร่างกายเราไหวแค่ไหน ถ้าพบว่าตัวเองมักง่วงในคาบบ่อยๆ ก็ลองปรับเวลานอนตอนกลางคืนให้ไวขึ้น หรือตั้งหลักตัวเองให้พร้อมมีสติตลอดการเรียน

     - ทำความเข้าใจก่อนฝึก ทั้งเข้าใจทักษะที่เราอยากฝึกว่ามีรายละเอียด ประเภท และวิธีการฝึกยังไงบ้าง รวมถึงเรียงลำดับว่า ทักษะไหนควรฝึกก่อน-หลัง หรือทักษะไหนที่สามารถฝึกไปพร้อมกันได้

     - ออกแบบเทคนิคการเรียนของตัวเองให้ยังมีสมาธิ สามารถโฟกัสกับการเรียนได้ (แม้บางคาบคุณครูจะพูดเสียงราบเรียบจนเราเคลิ้มจะหลับก็ตาม) เช่น กะพริบตาถี่ๆ ซักครู่ สูดหายใจเข้าออกลึกๆ หรือขยับท่านั่งเมื่อเริ่มง่วง อาจลองขออนุญาตคุณครูไปดื่มน้ำให้สดชื่น หรือล้างหน้าล้างตาแล้วกระโดดตบซักหน่อยให้เลือดลมสูบฉีดก็ได้

     - ทักษะที่จำเป็นแต่ละอย่างล้วนต้องใช้เวลาในการฝึก อย่าเพิ่งฝืนตัวเองเกินไป แต่ก็อย่าปล่อยใจจอยเกินไปเช่นกัน มันจะมีจังหวะที่ยื้อกับตัวเองระหว่างลุยต่อหรือพอแค่นี้ วันแรกๆ ที่ฝึก อาจมีสมาธิจดจ่อได้แค่ 20 นาทีแรก ก็ไม่เป็นไร ขอให้ฮึบใหม่ ตบบ่าให้กำลังใจตัวเอง แล้วพยายามตั้งใจเรียนต่อให้จบในคาบต่อๆ ไปนะ!

2_square (19).jpg

4. ทบทวน 1 หน้า 

1 วันมีหลายคาบ กว่าจะจบวันก็สมองเบลอไปหมด เผลอๆ สิ่งที่เรียนมาจะไหลมากองรวมกันแล้วงงหนักกว่าเดิมอีก คิดแล้วก็ปวดใจ เราจึงอยากเชียร์ให้ลองหาเวลาหลังเลิกเรียนเพื่ออยู่นิ่งๆ กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนในวันนั้นๆ วิชาละ 1 หน้า แล้วอ่านทวนดู เรื่องไหนไม่แน่ใจ ก็ลองไปเปิดหาคำตอบมาใส่เพิ่มได้ จะเก็บใส่แฟ้มไว้ รวบรวมเป็นชีทสรุปเพื่อติวอีกครั้งก่อนสอบก็ได้นะ

.

🌱 อยากทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมา ทำไงดี?

     - ทำให้เป็นข้อๆ หรือใช้ Bullet Point ช่วยบันทึกโดยแบ่งประเด็นหรือเนื้อหาออกเป็นข้อๆ 

     - เขียนให้เป็นภาพ การทบทวนตัวเองด้วยการบันทึกเป็นภาพ นอกจากจะช่วยให้เราคิดอย่างเป็นระบบแล้ว ยังช่วยให้เราจดจำและดึงข้อมูลกลับมาใช้ได้ง่ายขึ้นด้วย จะใช้เทคนิค Mind Map (แผนที่ความคิด), Doodling (การวาดรูปขยุกขยิกสรุปความคิดแบบไม่กังวลเรื่องความสวยงาม) หรือ Visual Thinking (การคิดเป็นภาพ) ก็ได้ 

.

.

5. เชื่อมโยง ต่อยอดความรู้ 

ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่จำเป็นมากๆ ทั้งสำหรับชีวิตการเรียน การสอบ และการใช้ชีวิต เพราะหากเราใช้เพียงการจดจำ ก็จะทำได้แค่ข้อสอบในวิชานั้นๆ (ที่ก็ไม่การันตีด้วยว่าเราจะได้คะแนนเต็ม เพียงเพราะความจำดี) ทักษะการคิดเชื่อมโยง ยังส่งผลถึงการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล การคิดวางแผนทั้งแผนหลักและแผนสำรองที่เป็นจริงได้ด้วย

.

🌱 อยากฝึกสกิลการคิดเชื่อมโยงและต่อยอด ทำไงดี?

     - ติดตามข้อมูลข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ เพราะในเนื้อข่าว นอกจากจะมีข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว บางครั้งจะมีแนบส่วนความคิดเห็นของนักวิชาการ และนักวิเคราะห์ ด้วย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ เพราะเราจะได้เห็นวิธีการต่อยอดความคิด คาดการณ์ความเป็นไปได้ ที่อ้างอิงข้อมูล งานวิจัย ที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับ (แต่ทั้งนี้ต้องเช็กก่อนด้วยนะว่า เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จริง)

     - ฝึกตั้งคำถามด้วยมุมมองที่หลากหลาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมา ให้ลองนึกหรือสมมติตัวเองก็ได้ว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะ… เพราะ…” หรือ “ถ้าเราเป็น… เราน่าจะ… เพราะ…” ตัวอย่างเช่น

เมื่อมีข่าวเหตุการณ์น้ำท่วม: 

“ถ้าเราเป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เราจะทำอะไรบ้าง เพราะอะไร?” 

“ถ้าเราเป็นผู้ว่าฯ ที่ต้องดูแลเมืองที่น้ำท่วม เราจะทำอย่างไร เพราะอะไร?”

“ถ้าเราเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในวัด ที่ชุมชนถูกน้ำท่วม เราจะทำอย่างไร เพราะอะไร” 

.

.

6. บันทึกการเรียนรู้ 

ข้อนี้ถือเป็นจิ๊กซอร์ตัวสุดท้ายที่ใครหลายคนไม่ทันนึกถึง มันเป็นการทำบันทึกเล็กๆ ที่เราเองสามารถกลับมาอ่าน ตั้งคำถาม และไปหาคำตอบเพื่อสร้างการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้ทุกเมื่อ 

การเห็นพัฒนาการของตัวเองในแต่ละวัน จะกระตุ้นให้เราฮึบต่อได้ในวันต่อๆ ไป เป็นตัวช่วยให้เรายังมีแรงลุยเรียนต่อ   แต่ถ้าวันไหนที่ใจไม่ไหวจริงๆ ก็อนุญาตให้ตัวเองได้ผ่อนคลายซักนิด แล้วมุ่งมั่นดึงตัวเองกลับมาสู้ต่อนะ

.

🌱 อยากเริ่มทำบันทึกการเรียนรู้บ้าง ทำไงดี?

    - บันทึกไดอารี่ อาจทำได้ทั้งการเขียนลงสมุด เม็มใส่มือถือ หรือใช้แอปพลิเคชันช่วยบันทึกก็ได้

    - ตั้งเวลาและเตรียมตัวเองให้พร้อมบันทึกการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเริ่มจากการทำในระยะเวลาสั้นๆ วันละ 10 - 15 นาที

    - หากไม่รู้จะเริ่มบันทึกยังไง ให้ลองทำตามข้อ 1 - 5 แล้วเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อสังเกตตัวเอง หรือคำถามข้อสงสัยสั้นๆ ก็ได้

.

.

เทคนิคเหล่านี้ เป็นการแนะนำจากรุ่นพี่ที่ทำจริง ใช้จริง และเห็นผลจริง - ก็จริง 

แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความอดทนและความพยายาม ต้องผ่านความเฟล ความท้อ และความนอยด์อย่างมาก แต่เชื่อเถอะว่า การสร้างนิสัยใหม่ให้ตัวเองได้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น แม้มันยังไม่เห็นผลในวันนี้พรุ่งนี้ แต่มันจะออกดอกและผลิบานความสำเร็จให้เราในอนาคตแน่นอน ตบบ่าปลอบใจตัวเองในวันที่เหนื่อย ลูบหัวให้กำลังใจตัวเองในวันที่ท้อ แล้วไปสู้ต่อนะ!


 

 

 


avatar-ฝ่ายจัดการความรู้และดูแลงานเขียน
เมธ์วดี ฝ่ายจัดการความรู้และดูแลงานเขียน

ฟัง พูด อ่าน เขียน อยู่ทุกวัน ทุกเวลายกเว้นตอนนอน

avatar-นักออกแบบภาพ
พิมพ์พร นักออกแบบภาพ

ความฝันของช่วงวัยใกล้แตะ 30 คืออยากมีหมาคอกี้เป็นของตัวเอง

Tag :

บทความแนะนำ

ไม่มีข้อมูล

กิจกรรมแนะนำ

ไม่มีข้อมูล