
นิยามสั้นๆ
ผู้ที่มีหน้าที่ตีความกฎหมายและตัดสินคดีความอย่างยุติธรรมจากหลักฐานในศาล
📃 ลักษณะงาน
- ตัดสินคดีความอย่างยุติธรรมและเป็นกลาง เป็นไปตามกฎของขั้นตอนและทุกฝ่ายมีโอกาสนําเสนอข้อโต้แย้งของตน
- จัดการกระบวนพิจารณาของศาล และรักษาความสงบเรียบร้อยในห้องพิจารณาคดี เพื่อให้แน่ใจว่าการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้พิพากษาอาจกําหนดตารางเวลา จัดการใบปะหน้าคดี และมอบหมายคดีให้กับผู้พิพากษาหรือบุคลากรในศาลคนอื่นๆ ทำงานต่อ
- ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับบทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อตีความกฎหมายอย่างถูกต้องและให้เหตุผลทางกฎหมายสำหรับการตัดสินใจในคดีต่างๆ โดยผลของการตีความของผู้พิพากษาจะเป็นแบบอย่างทางกฎหมายที่เป็นแนวทางสำหรับการพิพากษาคดีในอนาคต
- พิจารณาคำขอเพื่อออกคำสั่งฟ้องหรือคำสั่งทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น คำร้องขอประกันตัว คำสั่งปกป้องพยาน คำสั่งยึดทรัพย์ เป็นต้น
📊 ขั้นตอนการทำงาน
- และสืบค้นข้อเท็จจริงในประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาของคดีอย่างถี่ถ้วน
- พิจารณาคดีในศาล ด้วยการสอบสวนข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เสนอหลักฐานและแสดงความคิดเห็น หรืออาจจะต้องค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมหากข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอในการตัดสินคำพิพากษาด้วยการสอบถามพยานเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย
- พิพากษาคดี ผู้พิพากษาต้องวิเคราะห์ข้อมูลและตีความกฎหมายเพื่อออกมาเป็นคำพิพากษา ที่ยุติธรรม
- อ่านคำพิพากษาต่อหน้าคู่ความ ให้เหตุผลและตอบคำถามจากแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับคำพิพากษา จากนั้นคำพิพากษาหรือคำสั่งจะถูกส่งให้เจ้าพนักงานศาลจัดพิมพ์คำพิพากษาหรือคำสั่งให้เรียบร้อยเป็นหลักฐานทางกฎหมาย
- ติดตามผลหลังการพิพากษา ตรวจสอบว่าคู่ความปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่ ออกหมายจับผู้ต้องหาในกรณีที่คู่ความไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา
👩🏻💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ทนายความ
- อัยการ
- ตำรวจ
- เจ้าหน้าที่ศาล
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
- สถานที่ทำงานของผู้พิพากษา คือ ศาลพิพากษา โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและศาลที่สังกัด เช่น ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจะทำงานในศาลชั้นต้น 89 แห่งทั่วประเทศ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำงานในศาลอุทธรณ์ 5 แห่งประจำภูมิภาคต่างๆ ผู้พิพากษาศาลฎีกาทำงานในศาลฎีกา กรุงเทพมหานคร
- ผู้พิพากษาทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์-ศุกร์) เวลาทำการปกติคือ 8.30 น. ถึง 16.00 น
- ผู้พิพากษาบางท่านอาจได้รับมอบหมายให้ทำงานในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ หรืออาจต้องทำงานล่วงเวลา เช่น กรณีที่มีคดีเร่งด่วน คดีที่ต้องมีการนั่งบัลลังก์พิพากษาในวันหยุดราชการ หรือ คดีที่ต้องมีการสืบพยานนอกสถานที่
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
- ความรู้ทางกฎหมาย เช่น กฎหมายอาญา, กฎหมายแพ่ง, หรือกฎหมายครอบครัว
- ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี
- ทักษะการสื่อสาร ทั้งการฟังพูดและเขียน
- มีความเป็นกลางและรักความยุติธรรม
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
- ผลตอบแทนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 35,000 - 80,000 บาทต่อเดือน
- การเติบโตในอาชีพ (Career Path) ของ “ผู้พิพากษา” มีดังนี้
- ผู้ช่วยผู้พิพากษา
- ผู้พิพากษาประจำศาล เป็นผู้พิพากษาที่ผ่านการอบรมเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาอย่างน้อย 1 ปี และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น
- ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีในศาลชั้นต้น แบ่งเป็น 5 ชั้นตามอายุราชการเรียงจากบนลงล่าง ดังนี้
ชั้น 5 : ประธานศาลฎีกา
ชั้น 4 : รองประธานศาลฎีกา, อธิบดีผู้พิพากษาภาค, ผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ชั้น 3 : ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์, ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
ชั้น 2 : ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้น, ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น
ชั้น 1 : ผู้พิพากษาประจำศาล
- ผู้พิพากษาอาวุโส เป็นผู้พิพากษาศาลชั้นต้นที่มีอายุราชการครบ 20 ปี และมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมกำหนด ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาอาวุโส ทำหน้าที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น
- ความยากและท้าทายของอาชีพ “ผู้พิพากษา” คือ
- ผู้พิพากษาเป็นอาชีพต้องอดทนในการเข้าสู่เส้นทางอาชีพ เพราะเมื่อเรียนจบในระดับปริญญาตรีแล้ว ต้องศึกษาต่อเนติบัณฑิตไทยอีก 1 ปี และต้องสะสมประสบการณ์การทำงานด้านกฎหมาย จึงจะสามารถสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมได้ ระยะเวลาโดยรวมในการเป็นผู้พิพากษาใช้เวลาประมาณ 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการศึกษา อายุ และประสบการณ์
- สนามสอบของผู้พิพากษามีการแข่งขันสูง มีผู้สมัครจำนวนมาก และมีขั้นตอนการสอบทั้งข้อเขียนและการสอบแบบปากเปล่าที่เข้มข้น
- ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอาจต้องเดินทางไปทำหน้าที่ในต่างจังหวัดเป็นเวลา 3-4 ปี
- ผู้พิพากษาต้องตัดสินคำพิพากษาอย่างมีความเท่าเทียมและยุติธรรม ท่ามกลางการตรวจสอบจากสังคม
- อาจต้องเผชิญความยากในคดีที่ซับซ้อน หรือเผชิญกับความสะเทือนอารมณ์ เช่น คดีฆาตกรรม
- ผู้พิพากษาต้องต้องรักษาความลับเกี่ยวกับคดีและข้อมูลของผู้สอบสวนในการพิจารณาคดี
- สิ่งที่เป็นความเสี่ยงของอาชีพนี้ คือ
- ผู้พิพากษาต้องปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมระดับสูงอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รักษาความเป็นกลางและแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และความเป็นธรรมในการตัดสินใจ ซึ่งอาจเผชิญกับการทุจริตและติดสินบนหลายรูปแบบ
- ผู้พิพากษาอาจรับความเสี่ยงเมื่อต้องพิจารณาคดีของผู้มีอำนาจหรือผู้มีอิทธิพล
- ความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากคนที่ไม่พอใจในคำพิพากษา
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
- คลิป YouTube ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้พิพากษา เช่น
- Bangkok University. (2022, March 3). เส้นอาชีพผู้พิพากษา | ท่านธันวา ถนอมเกียรติ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=MS1jjmCXuqQ
- Modern Law. (2022, March 20). เป็นผู้พิพากษา ในอนาคตทํายังไง? แล้วทําไมถึงเรียกว่าสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา? EP.1 [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=eczxFu3SDQE
- คณะและมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมเกี่ยวกับ "ผู้พิพากษา"
- คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมาธิการสภาทนายความ
🌐 แหล่งอ้างอิง
- เปิดเงินเดือนและสวัสดิการผู้พิพากษาศาลยุติธรรม ชีวิตดีๆ บนภาษีประชาชน. (n.d.). ilaw.ot.th - เปิดเงินเดือนและสวัสดิการผู้พิพากษาศาลยุติธรรม ชีวิตดีๆ บนภาษีประชาชน. https://ilaw.or.th/node/5932
- https://www.careerexplorer.com/careers/judge/
- ปรีชา ศิลปกุล, ส. (2021). ผู้พิพากษาที่ดีและผู้พิพากษาอันไม่พึงประสงค์. The 101 World. https://www.the101.world/a-good-judge/
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 https://ojac.coj.go.th/th/content/page/index/id/261889