
นิยามสั้นๆ
ผู้ให้ความรู้ ให้การดูแล เป็นที่ปรึกษาและเป็นที่พึ่งให้แก่นักเรียน
📃 ลักษณะงาน
ลักษณะงานของครู อาจแบ่งเป็นประเภทงานได้ดังนี้
- งานสอน มีตั้งแต่การเตรียมการสอน สอนในคาบเรียน ออกข้อสอบวัดผล ตรวจข้อสอบ บันทึกคะแนน และตัดเกรด
- ดูแลนักเรียน
- นักเรียนที่สอนในรายวิชาที่ครูรับผิดชอบ: คอยดูว่าเข้าใจในสิ่งที่สอนหรือไม่ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง อาจนัดติวเพิ่มเติมนอกรอบเพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น
- นักเรียนที่เป็นเด็กในที่ปรึกษา: ทำความรู้จัก สอดส่องดูแล สังเกตว่ามีปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ เยี่ยมบ้าน ประชุมผู้ปกครอง สื่อสารกับผู้ปกครอง เช่น เล่ากิจกรรม หรือปัญหาที่เจอ
- งานอื่นๆ ในโรงเรียนที่ได้รับมอบหมาย (อาจจะไม่ได้รับมอบหมายทุกคน) เช่น
- เข้าเวรในช่วงเวลาต่างๆ เช่น ยืนเวรตอนเช้าหน้าประตูเพื่อต้อนรับนักเรียน ยืนเวรตอนเที่ยงเพื่อตรวจความเรียบร้อยขณะกินข้าว
- งานวิชาการ เช่น ตรวจข้อสอบ วัดผล ประเมินผล
- งานธุรการ ช่วยสนับสนุนครูท่านอื่น ๆ
- งานฝ่ายปกครอง เช่น ทำแบบวัดประเมินสุขภาพจิต ดูแลนักเรียนชกต่อย จัดกิจกรรมให้เด็ก เป็นต้น
- งานพัฒนาตัวเอง เช่น ไปอบรม ไปประชุม ทำเวิร์กช็อป หาความรู้เพิ่มเติม เป็นต้น
- งานประเมินตนเอง โดยต้องประเมินเมื่อสอนจบทุกๆ 1 เทอมหรือ 1 ปีการศึกษา ทำรายงานสรุปประจำปีว่าได้ทำอะไรบ้าง เพื่อให้หัวหน้าและผู้บริหารประเมินผลการทำงาน ซึ่งจะมีผลกับการปรับเงินเดือน การเลื่อนขั้น เลื่อนระดับวิทยฐานะ
📊 ขั้นตอนการทำงาน
ขั้นตอนการทำงานของครู
- ก่อนเวลาเข้าเรียน
- ตรวจดูในคืนก่อนหน้าคาบเรียนนั้นๆ ว่ามีใครแจ้งลาในวันรุ่งขึ้นหรือไม่ มีเรื่องอะไรบ้างที่ครูต้องจัดการในวันรุ่งขึ้น
- เข้าเวรหรือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในตอนเช้า เช่น อยู่เวรหน้าประตูโรงเรียนเพื่อดูแลและต้อนรับนักเรียนก่อนโรงเรียนเข้า
- เข้าแถวกับนักเรียน สอดส่องดูแล และเช็กจำนวนว่านักเรียนมาครบไหม
- เวลาเข้าเรียน
- สอนตามตารางเรียน
- ตรวจการบ้าน ให้คำปรึกษา เตรียมการสอน
- หลังเลิกเรียน
- ให้คำปรึกษา หากมีนักเรียนติดต่อขอปรึกษาเรื่องการบ้านหรือเรื่องส่วนตัว
- เข้าเวรหรือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เช่น ไปนอนค้างที่โรงเรียนเพื่อดูแลความเรียบร้อย เดินสอดส่องดูแล และมีอำนาจในการตัดสินใจหากมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น
- เตรียมการสอนในบทเรียนต่อไป หรือ หาไอเดียในการสอน
- การทำกิจกรรมต่าง ๆให้กับนักเรียน เช่น การคัดเลือกทุน การเป็นครูประจำชมรม
- ทำงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย เช่น ประสานงาน ไปประชุม
- ทำงานเอกสารอื่น ๆ เช่น บันทึกการประชุม ทำสรุปงานในส่วนต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
👩🏻💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
- อาชีพอื่นๆ ในโรงเรียน เช่น รปภ. ภารโรง
- ผู้นำชุมชน
- นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่การศึกษา นักสังคมสงเคราะห์
- เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต
- ผู้ให้ทุนการศึกษานักเรียน และให้ทุนสนับสนุนโรงเรียน เช่น วัด บริษัทห้างร้านต่างๆ
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
- เวลาทำงานตามเวลาโรงเรียนเข้า คือ 7:30-16:00 น. แต่ในความเป็นจริงอาจต้องดูแล ตอบคำถาม และให้คำปรึกษากับนักเรียนเกือบตลอดเวลา
- ทำงานในโรงเรียนที่สังกัดอยู่ภายใต้หน่วยงานราชการเดียวกัน เช่น
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
- กรุงเทพมหานคร (กทม.)
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
- เรียนจบจากคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ใบประกอบวิชาชีพครู) ออกโดยคุรุสภา (หากไม่มีต้องสอบหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือ ป. บัณฑิต ให้ผ่าน)
- ไม่ได้เรียนจบจากคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์มาโดยตรง แต่เรียนจบสาขาตรงกับวิชาที่จะสอน สามารถสมัครสอบบรรจุในตำแหน่งที่ประกาศรับสมัครได้ และต้องเรียนและสอบหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือ ป. บัณฑิต ให้ผ่าน หลังจากได้รับการบรรจุแล้ว
- มีความรู้ในวิชาที่สอนอย่างถูกต้องแม่นยำ
- มีทักษะการสื่อสาร การอธิบาย มีทักษะในการสอน และมีเทคนิคในการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหา น่าเชื่อถือ น่าเรียน น่าฟัง
- เข้าใจธรรมชาติของเด็กในวัยต่างๆ มีความรู้เรื่องจิตวิทยาเด็ก และสามารถสร้างความเข้าใจกับเด็ก รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กนักเรียน สร้างความไว้ใจ และใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับเด็กนักเรียน
- สามารถจับประเด็นได้ดี เพื่อฟังเรื่องราวและความต้องการที่นักเรียนต้องการจะสื่อสาร
- มีวุฒิภาวะ ช่างสังเกต มีไหวพริบและความเฉลียวใจ เพื่อสังเกตและสำรวจนักเรียนว่าต้องการความช่วยเหลือใดๆ หรือไม่
- มีความสามารถในการควบคุมตนเอง รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง มีสติ
- ความสามารถในการบริหารจัดการเวลา มีวินัย รู้ขีดจำกัดของตนเอง
- ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพราะครูในโรงเรียนอยู่กันเป็นหมวด เป็นกลุ่มสาระ ต้องทำงานร่วมกันทั้งภายในหมวดและข้ามหมวด เช่น จัดงานวิชาการ จัดกิจกรรม จัดการแข่งขัน ทำงานในทีมตนเองและทำงานร่วมกับกลุ่มสาระอื่น
- ชอบทำงานกับเด็ก ชอบผู้คน ชอบพูดคุย
- พร้อมพัฒนาตนเองตลอดเวลา หาความรู้เพิ่มเติม หาสื่อการสอน หรือแนวทางการเรียนรู้ที่ช่วยเสริมการสอนของตนเอง
- มีทักษะในการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน เช่น ระบบการกรอกข้อมูลออนไลน์ การส่งไฟล์หรือเอกสารให้กับนักเรียนและเพื่อนร่วมงานออนไลน์ การใช้อุปกรณ์ต่อสายจอและอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
- เงินเดือนข้าราชการครูปรับเพิ่มขึ้นตามวิทยฐานะ โดยเริ่มต้นที่ 15,800 บาท เรียงลำดับได้ ดังนี้
- ครูผู้ช่วย
- ครู ค.ศ. 1 ครูระดับปฏิบัติการ
- ครู ค.ศ. 2 ครูชำนาญการ
- ครู ค.ศ. 3 ครูชำนาญการพิเศษ
- ครู ค.ศ. 4 ครูเชี่ยวชาญ
- ครู ค.ศ. 5 ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
- การเลื่อนวิทยฐานะ จะต้องทำรายงานผลงานและประเมินตนเองในแต่ละปี ผ่านการประเมินจำนวนปีติดต่อกันตามที่กำหนด
- วิทยฐานะที่เพิ่มขึ้นจะได้รับเนื้องานเพิ่มขึ้น มีภาระงานที่ท้าทายขึ้น มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น และได้รับผลตอบแทนเป็นค่าตำแหน่งเพิ่มขึ้น
- หากสังกัดและทำงานในโรงเรียนขนาดเล็ก ครู 1 คน อาจต้องทำหน้าที่หลายอย่าง เพราะมีจำนวนครูน้อย
- ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงหากเป็นข้าราชการครู อีกทั้งยังได้รับสวัสดิการสำหรับข้าราชการ ได้รับค่ารักษาพยาบาลของตนเอง คู่สมรส และพ่อแม่ รวมถึงได้รับการสนับสนุนค่าเทอมลูกจนจบมหาวิทยาลัย
- นอกจากได้รับผลตอบแทนเป็นเงินแล้ว อาชีพครูจะได้รับความรู้สึกชื่นใจเมื่อเห็นเด็กนักเรียนเติบโต เห็นผลของสิ่งที่ได้เฝ้าทำมา เป็นความรู้สึกที่ดีต่อใจ รวมถึงเกิดความรู้สึกภูมิใจทั้งในตัวนักเรียนและในตนเอง เมื่อนักเรียนเข้าใจในเนื้อหาที่สอน
- ในแต่ละปีมีตำแหน่งที่เปิดรับในแต่ละจังหวัดไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาได้ ในการสมัครสอบบรรจุ หรือยื่นเรื่องเพื่อขอย้ายพื้นที่ ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ว่างที่เปิดรับสมัครเท่านั้น
- หากเป็นลูกคนเดียวที่มีพ่อแม่แก่ชราที่อยู่ตามลำพังโดยไม่มีคนดูแล สามารถยื่นเรื่องขอย้ายกลับพื้นที่ในจังหวัดบ้านเกิดได้ โดยต้องผ่านการทำงานในโรงเรียนเดิมมาแล้ว 2 ปี
- ความท้าทายด้านสุขภาพที่ต้องแลกมาจากการเป็นครู
- สุขภาพกาย: ต้องยืนสอนนาน เดินเยอะ ทำให้มีอาการปวดหลังหรือปวดขาได้ เสียงแหบ เจ็บคอ เพราะใช้เสียงมากและต้องพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ หลายรอบ
- สุขภาพจิต: อาจมีความเครียด หรือได้รับความกดดันจากหลายฝ่าย และการเป็นครูในปัจจุบันต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีและ Social Network ที่อาจเป็นช่องทางเผยแพร่และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในความไม่เหมาะสม ที่บางครั้งครูเองก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการถูกแอบบันทึกภาพ เสียง คลิป แล้วนำไปตัดต่อได้ เมื่อต้องระวังตัวอย่างรัดกุมและกดดันมากๆ อาจเกิดเป็นความเครียดของครูได้
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
เข้าร่วมกิจกรรมค่ายบ่มเพาะความเป็นครู ที่สถาบันหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ จัด เมื่อไปแล้วจะได้รู้ว่าการเป็นครูต้องทำอะไร เกิดความเข้าใจในคณะและสาขามากขึ้น
โครงการค่ายบ่มเพาะครูสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ https://www.facebook.com/SSEDCAMP/
📚 ข้อมูลสายการเรียนที่เกี่ยวข้อง
มัธยมศึกษาตอนปลาย
- เปิดรับทุกสายการเรียน วุฒิจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
ปริญญาตรี เช่น
- คณะครุศาสตร์ สาขาวิชามัธยมศึกษา
- คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษ
- คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาการเรียนรู้
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต
ปริญญาโท เช่น
- หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย/ สาขาวิชาการศึกษาคณิตศาสตร์/ สาขาวิชาการศึกษาวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
*ข้อมูล ณ ปี 2567
🌐 แหล่งอ้างอิง