ข้อมูลอาชีพนักละครบำบัด

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10:41 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาที
Acting-pana.png

 

นิยามสั้นๆ

 

ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้กระบวนการทางละคร เช่น การแสดงบทบาท การสร้างเรื่องราว และการเล่นเกม เพื่อใช้ในกระบวนการเยียวยาทางจิตใจและการพัฒนาตนเอง

 

📃 ลักษณะงาน
  • สร้างสรรค์การบำบัดผ่านกิจกรรมการแสดง  นักละครบำบัดจะออกแบบกิจกรรมที่ผสมผสานการแสดง เช่น การเล่นบทบาท การใช้เสียงและท่าทาง การเขียนบท การสร้างเรื่องราว เพื่อให้ผู้รับการบำบัดสามารถแสดงออกและเข้าใจตนเองมากขึ้น
  • วิเคราะห์และประเมินความต้องการของผู้รับการบำบัด  นักละครบำบัดจะทำการประเมินสถานะทางอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของผู้รับการบำบัด เพื่อปรับแนวทางการบำบัดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • ใช้เทคนิคการแสดงเพื่อช่วยจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรม  เพื่อเยียวยาผู้รับการบำบัด ซึ่งผู้รับการบำบัดจะถูกกระตุ้นให้เรียนรู้การสื่อสารและแสดงออก เพิ่มความสามารถในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งพัฒนาทักษะการจัดการและแก้ไขปัญหาที่สามารถสร้างขึ้นให้กับตนเองได้
  • สนับสนุนและให้คำปรึกษาด้านอารมณ์  เมื่อผู้รับการบำบัดแสดงออกถึงความรู้สึก นักละครบำบัดจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ช่วยแนะนำและสนับสนุนการพัฒนาความเข้าใจในตนเอง ให้กำลังใจและช่วยให้ผู้รับการบำบัดรู้สึกปลอดภัยในการแสดงออก
  • สื่อสารและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่นๆ นักละครบำบัดมักทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือผู้ดูแลสุขภาพจิต เพื่อประเมินและติดตามผลการบำบัดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
📊 ขั้นตอนการทำงาน
  1. สัมภาษณ์และเก็บข้อมูล  เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับผู้รับการบำบัด เพื่อเก็บข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาที่เผชิญอยู่ และสำรวจประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ป่วย รวมถึงเป้าหมายที่ต้องการบรรลุผ่านการบำบัด
  2. ออกแบบการแผนการบำบัด  เลือกแนวทางในการบำบัด  ทั้งนี้ผู้รับการบำบัดมีอิสระในการเลือก ที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในระดับที่ตนเองรู้สึกหรือคิดว่าเหมาะสม ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย (Safe and Contained Space) และปราศจากการตัดสินหรือประเมินค่า (Non-Judgmental Environment)
  3. ทำกิจกรรมทางละคร  การบำบัดจะใช้รูปแบบของการแสดงออก (Dramatic Expressive Forms) ที่หลากหลาย ซึ่งอาจมีทั้งการใช้ภาษาและไม่ใช้ภาษา (Verbal and Non-Verbal Communication) เช่น การแสดงด้นสด (Improvisation), การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play), การสร้างตัวละคร (Characterisation) และการแสดงออกผ่านการใช้ดนตรีและการเคลื่อนไหวของร่างกาย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับการบำบัดมีพื้นที่ในการสะท้อนอารมณ์ และฝึกทักษะการจัดการกับความรู้สึกที่ตนเองอาจเผชิญในชีวิตจริง
  4. สะท้อนความรู้สึก  หลังจากการทำกิจกรรม นักละครบำบัดจะร่วมกับผู้เข้ารับบริการสะท้อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรม โดยพูดคุยถึงสิ่งที่ผู้ป่วยได้เรียนรู้หรือเข้าใจเกี่ยวกับตนเองผ่านกระบวนการละคร
  5. ติดตามผล  หลังจากเสร็จสิ้นการบำบัด นักละครบำบัดอาจมีการติดตามผลเพื่อดูผู้รับการบำบัดว่าสามารถนำทักษะและความเข้าใจจากการบำบัดไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไรบ้าง และหากจำเป็นก็สามารถปรับหรือแนะนำแนวทางใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาต่อไป
👩🏻‍💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
  1. จิตแพทย์
  2. นักจิตวิทยา
  3. นักกิจกรรมบำบัด
  4. นักบำบัดทางศิลปะ
  5. นักบำบัดทางดนตรี 
  6. พยาบาลจิตเวช
  7. นักสังคมสงเคราะห์
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
  • สถานที่ทำงาน  ทำงานได้ในหลากหลายสถานที่ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล คลินิกจิตเวช ศูนย์พัฒนาการทักษะการเรียนรู้ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพและปรับพฤติกรรม เรือนจำ บ้านพักคนชรา เป็นต้น  
  • เวลาการทำงาน ยืดหยุ่นปรับตามผู้รับการบำบัด ทีมการทำงาน และสถานที่ที่ให้การบริการ
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
  1. ความรู้พื้นฐานด้านจิตวิทยาและสุขภาพจิต เช่น จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการปรับตัว และจิตวิทยาคลินิก รวมถึงการศึกษาพัฒนาการและพฤติกรรมมนุษย์  เพื่อให้เข้าใจความต้องการและปัญหาของผู้ป่วย
  2. ความรู้ด้านการศิลปะการละคร เช่น การแสดงบทบาทสมมติ (Role-playing) การเล่าเรื่อง (Storytelling) และการสร้างสถานการณ์สมมติ เพื่อช่วยให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึก
  3. ทักษะการสื่อสารและการฟังเชิงลึก 
  4. ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา 
  5. ทักษะการทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพอื่นๆ 
  6. ทักษะการจัดการอารมณ์และความเครียด
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
  • ผลตอบแทน  เนื่องด้วยวิชาชีพนี้ อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทย โอกาสและผลตอบแทนจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น 
    • หากทำงานในโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพจิต นักละครบำบัดมักจะได้รับเงินเดือนตามเกณฑ์ของภาครัฐหรือเอกชน เริ่มต้นที่ 15,000-30,000 บาท 
    • หากทำงานในโรงเรียนหรือสถานศึกษาพิเศษ นักละครบำบัดอาจจะได้รับเงินเดือนเป็นรายชั่วโมง เริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 - 4,000 ต่อชั่วโมง 
  • โอกาสและการเติบโตของอาชีพนักละครบำบัด 
    • สามารถพัฒนาประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของตนเองได้ และอาจมีโอกาสรับค่าตอบแทนสูงขึ้น โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น การบำบัดเด็กพิเศษ หรือการบำบัดผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านจิตเวชขั้นสูง
    • ทำงานร่วมกับสถาบันหรือองค์กรระหว่างประเทศ  นักละครบำบัดที่ทำงานร่วมกับองค์กรต่างประเทศ หรือทำโครงการร่วมกับสถาบันในต่างประเทศ อาจได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าการทำงานในประเทศ เนื่องจากมีการสนับสนุนจากแหล่งทุนหรือโครงการจากต่างประเทศ
    • สามารถเป็นนักบรรยายหรือนักฝึกอบรม  นักละครบำบัดบางคนอาจทำงานเป็นวิทยากรหรือผู้ฝึกอบรมในเวิร์กช็อปหรือการประชุม ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้เพิ่มเติม โดยค่าตอบแทนสำหรับการบรรยายหรือการฝึกอบรมอาจอยู่ในช่วง 5,000 - 20,000 บาท ต่อวัน ขึ้นอยู่กับงานและเนื้อหาที่ต้องการ
  • ความท้าทายของอาชีพนักละครบำบัด 
    • ความซับซ้อนทางอารมณ์ นักละครบำบัดต้องสามารถจัดการกับอารมณ์ที่หลากหลายของผู้รับการบำบัด เช่น ความเศร้า ความเครียด หรือความโกรธ และต้องสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยให้ผู้รับการบำบัดรู้สึกไว้วางใจ นำไปสู่การเปิดใจและแสดงออกถึงความรู้สึกได้อย่างเต็มที่
    • การปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างของผู้รับการบำบัด  ผู้ที่มารับการบำบัดมีพื้นฐานและปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้น นักละครบำบัดต้องปรับแนวทางการบำบัดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้การบำบัดมีประสิทธิภาพสูงสุด
    • การดูแลตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าทางจิตใจ  เนื่องจากต้องรับฟังและเข้าใจปัญหาของผู้รับการบำบัด นักละครบำบัดเองอาจได้รับผลกระทบจากความเครียดหรือความเหนื่อยล้าทางจิตใจได้ จึงต้องมีวิธีการดูแลตนเองและฝึกฝนทักษะในการแยกแยะอารมณ์เพื่อรักษาความสมดุลในชีวิต
    • การพัฒนาทางวิชาชีพและความรู้เพิ่มเติม  เนื่องจากเป็นสาขาที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย นักละครบำบัดจึงต้องอัปเดตข้อมูลวิชาการใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถใช้เทคนิคการบำบัดที่ทันสมัยและได้ผลจริง
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
🌐 แหล่งอ้างอิง

 

 

0

แนะนำอาชีพใกล้เคียง

ไม่มีข้อมูล

รู้จักอาชีพผ่านกิจกรรม

ไม่มีข้อมูล