
นิยามสั้นๆ
ผู้ทำอาหารและจัดการระบบในครัวตั้งแต่เลือกวัตถุดิบไปจนถึงนำอาหารออกเสิร์ฟแก่ลูกค้า ให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคได้รับอาหารที่ดูดี รสชาติดี คุณภาพดี สะอาด
📃 ลักษณะงาน
เชฟจะมีลักษณะงาน 2 เรื่องหลัก คือ
- การทำอาหาร อาจได้รับมอบหมายเป็นหน้าที่เฉพาะ เช่น ล้าง หั่น เตรียมวัตถุดิบ หรือ หน้าที่ใน Station สลัด จะรับผิดชอบทำสลัดทุกเมนู เป็นต้น โดยครัวแต่ละร้านจะมี Station หรือระบบความรับผิดชอบที่ต่างกันไป
- การจัดการครัว ทำหน้าที่ประมวลผล คิดวางแผน จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำก่อนหลัง จัดการการทำงานให้เป็นระบบและทำให้ทุกคนในครัวทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📊 ขั้นตอนการทำงาน
- วางแผนจัดการงานที่ต้องทำในแต่ละวัน เรียงลำดับความสำคัญ
- เตรียมตัวก่อนเปิดร้าน จัดอุปกรณ์ วัตถุดิบ
- ทำงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าเชฟ (Head Chef) เช่นเชฟประจำแต่ละหน่วย (station) ต่างๆ ต้องรับผิดชอบงานในหน่วยของตนเองให้เรียบร้อย เตรียมของที่ต้องใช้ และตรวจสอบคุณภาพให้เสร็จก่อนร้านเปิด
- เมื่อร้านเปิดและมีลูกค้าเข้าร้านต้องทำงานกันเป็นทีม และช่วยเหลือคนอื่นๆ ในทีมเมื่อเกิดความผิดพลาด เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ราบรื่นที่สุด
- ดูแลความสะอาด จัดการความเรียบร้อย ก่อนเปลี่ยนกะหรือปิดร้าน
- เตรียมงานสำหรับวันต่อไป
👩🏻💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
ตัวอย่างอาชีพที่เชฟที่ทำงานในร้านอาหารอาจได้ทำงานร่วมกับ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
- กลุ่มคนในครัว (แล้วแต่ขนาดความเล็กใหญ่ของร้าน)
- เชฟคนอื่นๆ ที่ทำงานตาม Station ต่างๆในครัว เช่น คนลวกเส้น คนหน้าเตา คนทำสลัดพนักงานล้างจาน
2.กลุ่มคนนอกครัว (ที่ทำงานในร้านเดียวกัน)
- พนักงานต้อนรับ
- พนักงานรับออเดอร์ พนักงานแนะนำอาหาร ที่เป็นคนติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและคนในครัว
- พนักงานเสิร์ฟ
- ผู้จัดการร้าน
3.กลุ่มคนนอกครัว (นอกร้าน)
- Supplier ที่เตรียมวัตถุดิบต่างๆ
- คนส่งของ
- คนที่มารับซื้อน้ำมันที่ใช้แล้ว
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
- สถานที่ทำงานของเชฟ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่เฉพาะที่จ้างให้เชฟส่วนตัว (Private Chef) มาทำอาหารให้กิน สถานที่จัดงานต่างๆ ที่ใช้บริการจัดเลี้ยง (Catering) โดยเชฟไปทำอาหารในสถานที่จัดงาน หรือทำอาหารแล้วส่งอาหารไปที่สถานที่จัดงาน บริษัท หรือองค์กรที่จัดเตรียมอาหารให้พนักงาน เชฟบางคนอาจทำงานประจำในสำนักงานหรือบริษัท ในฐานะที่ปรึกษา ที่ทำหน้าที่คิดเมนู คิดสูตรอาหาร ช่วยฝึกวิธีการทำอาหารตามเมนูและสูตรนั้นๆ
- เวลาทำงานจะขึ้นอยู่กับร้านหรือองค์กรที่สังกัด โดยเชฟจะเริ่มงานก่อนร้านเปิด 1 - 2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมของและเตรียมร้าน เวลาทำงานอาจเป็น 9.00 - 18.00น. มีเวลาพักหรือเวลาทำงานเป็นกะ
- โดยมากเชฟจะทำงาน 5 หรือ 6 วันต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร้านหรือองค์กร โดยวันที่งานยุ่งหรือเป็นวันที่พีคมักเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
- ทักษะและไหวพริบในการทำอาหาร การปรุงรส การควบคุมความร้อน
- มีความคิดเป็นระบบ จัดลำดับความสำคัญ จัดระเบียบในหัวให้ดี
- มีวินัย จัดการตัวเองได้ ทำงานภายใต้ความกดดันได้
- สามารถทำตามขั้นตอน รายละเอียดที่ร้านหรือองค์กรกำหนดในระยะเวลาที่จำกัด
- พร้อมเรียนรู้ เปิดใจ
- ร่างกายแข็งแรง กระฉับกระเฉง ทนความเหนื่อยล้าได้ ดูแลร่างกายให้พร้อมทำงานได้
- มีทักษะการทำงานเป็นทีม ทำงานกับเพื่อนร่วมงานได้
- หากมีความสนใจศาสตร์ด้านเครื่องดื่ม การดื่ม หรือสามารถผลิตหรือจับคู่เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับอาหารได้ ก็จะเป็นส่วนสนับสนุนในการประกอบอาชีพเชฟ
- มีความรู้ด้านการจัดการ การบริหาร ความรู้เรื่องการคำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่าย ทักษะการจัดการคนทำงาน ดูแลทีมงานให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
- ความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลง วางแผนตอบรับสถานการณ์ได้
- อาชีพเชฟไม่มีการสอบใบประกอบวิชาชีพ ทุกคนสามารถเป็นได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียนจบเชฟมาโดยตรง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และองค์กรที่สมัครงาน ว่ามีเงื่อนไขหรือให้ความสำคัญกับการเรียนเชฟมาโดยตรงหรือไม่
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
- การเติบโตในอาชีพ (Career Path) เริ่มจากหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบน้อยไปมาก
- อาจเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยเชฟในครัว (Kitchen Helper หรือ Commis Chef) ทำงานสนับสนุนคนในครัว เช่น ล้างผัก เตรียมของ ปอก หั่น
- เชฟทำงานประจำในหน่วย (Station) ต่างๆ ในครัว เช่น หน่วยที่ทำซอส สลัด ขนมหวาน เป็นต้น
- หัวหน้าครัวหรือหัวหน้าหน่วยในครัว (Section Chef) เป็นคนที่คอยดูภาพรวม และให้คำแนะนำเชฟจูเนียร์
- หัวหน้าแผนกครัว (Head Chef) เชฟที่จัดการครัวทั้งหมด เป็นผู้ที่ทำให้ร้านและการทำอาหารดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
- เงินเดือนจะขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงาน เงินเดือนจากการทำงานในร้านอาหารไม่เท่ากับจากการทำงานในโรงแรม
- บางร้านอาจให้เงินเดือนน้อย แต่มีค่าตอบแทนจาก Service charge
- เงินเดือนเริ่มต้นอาจอยู่ระหว่าง 9,000 - 15,000 บาท หากมีประสบการณ์มากขึ้นก็จะได้เงินเพิ่มขึ้น
- บางร้านมีค่าโอทีให้ถ้าจำนวนชั่วโมงที่เปิดร้านนาน โดยร้านส่วนมากมักเปิดร้านนานกว่า 8 ชั่วโมง อาจมีชั่วโมงการทำงาน 10 หรือ 12 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น
- สิ่งที่ได้มานอกจากเงินและประสบการณ์ คือ เมื่อคนกินอร่อย ก็รู้สึกดี ถ้าวันไหนผ่านความยุ่งยากไปได้ด้วยดี จะรู้สึกว่าทำงานได้ดี ใจฟู รู้สึกได้รับความสำเร็จ
- ความยากและความท้าทายของอาชีพนี้ คือ ต้องทำทุกอย่างให้พร้อม ต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้ ต้องทำได้ดีและเร็ว ต้องจัดลำดับความสำคัญ วางแผน ทำอะไรก่อนหลังและต้องเสร็จในเวลา เพื่อให้ได้คุณภาพดีตามมาตรฐานของร้าน
- ต้นทุนที่ต้องแลกมาคือ
- สุขภาพ เพราะเป็นการทำงานที่ยืนเยอะ กินข้าวไม่ตรงเวลา รวมถึงอาจมี Lifestyle ที่อาจไม่ตรงกับคนอื่น เช่น วันหยุดหรือช่วงเทศกาลที่จะเป็นช่วงที่ต้องทำงาน ต้องพร้อมสำหรับการทำงาน ที่อาจไม่ได้หยุดพักเหมือนอาชีพอื่น
- ค่าเรียน สายอาชีพนี้มีค่าเรียนค่อนข้างสูง แต่อาจต้องยอมรับเงินเดือนขั้นต่ำเพื่อสะสมความสามารถและประสบการณ์ก่อน ซึ่งถ้าพิสูจน์ตัวเองได้ก็จะได้รับเงินเดือนมากขึ้น
- ความกดดันในการทำงาน เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา มีความกดดันและความเครียด เชฟต้องฝึกควบคุมอารมณ์และวางแผน ต้องมีศิลปะและความสามารถในการจัดการ เมื่อต้องเร่งให้ทีมให้ทำให้เสร็จตามเวลา บางคนอาจอาศัยท่าทีก้าวร้าวดุดัน บางคนอาจจะใช้ความเด็ดขาด ชัดเจน หลักๆ คือต้องใช้วิธีการสื่อสารที่ชัดเจน ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
- ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์ผัด มาทำอาหารแทนคน ซึ่งอาชีพเชฟอาจได้รับผลกระทบหากเป็นเชฟที่ทำอาหารที่เน้นปริมาณการผลิตและการขายมากๆ จนเครื่องจักรสามารถทำงานแทนคนได้ แต่ถ้าหากเป็นเชฟในร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ อาจยังไม่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเทคโนโลยีนี้
- ปัจจุบันยังไม่มีการกินอาหารในโลกเสมือนจริง คนเรายังต้องกินอาหารจริงๆ ไม่ได้กินผ่านคอมพิวเตอร์ การทำอาหารที่ดีมีคุณภาพน่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการเป็นเชฟ แต่ต่อไปเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไป เชฟจำเป็นต้องปรับตัวตามสถานการณ์โลก
- เวลาสำหรับการพักกินข้าวมักไม่ใช่เวลาปกติ เนื่องจากเป็นเวลาที่ต้องทำงาน ทำอาหารให้คนอื่นกิน
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
- Food Network https://www.foodnetwork.com/
- Chefs of NYC https://www.chefsofnyc.com/
- Pasta Grannies การพาสต้าและอาหารอิตาเลียนแบบโฮมเมด
- เว็บไซท์ https://www.pastagrannies.com/
- Instagram @pastagrannies
- Youtube https://www.youtube.com/user/pastagrannies
- เว็บโรงเรียนสอนทำอาหาร (Culinary College) บางที่จะมีคลิปและแนะนำอะไรเล็กๆ น้อยๆ
- Le Cordon Bleu Dusit Culinary School https://www.cordonbleu.edu/thailand/home/en
- https://www.cordonbleu.edu/home/en
- https://www.ciachef.edu/
- https://www.ciachef.edu/cia-new-york/
- เว็บหรือเพจร้านอาหาร บางทีจะมีบอกนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการ เทรนด์ความก้าวหน้าของกรรมวิธี หรือวัตถุดิบที่น่าสนใจ
- ติดตามเชฟคนที่เราสนใจ คนไหนที่ทำอะไรแล้วเราชอบ สนใจ รู้สึกว้าว เพื่อให้ได้แรงบันดาลใจ และอาจได้เทคนิกเล็กๆ น้อยๆ มาปรับใช้บ้าง
📚 ข้อมูลสายการเรียนที่เกี่ยวข้อง
มัธยมศึกษาตอนปลาย
- สายวิทย์-คณิต
- สายศิลป์-คำนวณ
- สายศิลป์-ภาษา
- ปวช. หรือเทียบเท่า *บางสถาบันรับสายนี้
ปริญญาตรี เช่น
- คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม สาขาวิชาศิลปะการปรุงอาหารและการจัดบริการด้วยไมตรีจิต
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชานวัตกรรมอาหารและเชฟมืออาชีพ
- คณะเกษตร สาขาวิชาคหกรรม
- โรงเรียนการเรือน สาขาวิชาคหกรรม
- คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ
- คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาขาศิลปะการประกอบและออกแบบอาหาร(หลักสูตรนานาชาติ)
- โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ
- สาขาสาขาวิชาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร
ปริญญาโท เช่น
จบ ป.ตรีสาขาทุกสาขา แต่ต้องศึกษาเกี่ยวกับทักษะการทำอาหารอยู่เสมอ เรียนทำอาหารเพิ่มเติมในคอร์สต่าง ๆ และหาโอกาสในการฝึกงานหรือทำงานเกี่ยวกับการทำอาหารเพิ่มเติม
- คณะเกษตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรม
*ข้อมูล ณ ปี 2567