
นิยามสั้นๆ
เป็นผู้สื่อสาร ทำเครื่องดื่ม และส่งเครื่องดื่มนั้นจากไร่ผู้ผลิต ไปสู่แก้วของลูกค้า
📃 ลักษณะงาน
มีงานหลักๆ อยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ทำงานกับลูกค้า และส่วนงานจัดการที่ทำร่วมกับทีม
- ส่วนที่ทำงานกับลูกค้า
- ทำงานที่อยู่ในร้านและเกี่ยวกับเครื่องดื่ม เช่น ชงเครื่องดื่ม เสิร์ฟ พูดคุยกับลูกค้า เป็นต้น
- ให้ข้อมูลและความรู้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวกาแฟ หรือวิธีการชงกาแฟกับลูกค้า เป็นต้น
- ทำงานอื่นๆ ในร้าน เช่น เป็นแคชเชียร์คิดเงิน ทำความสะอาด เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำเครื่องดื่ม เป็นต้น
- ส่วนงานจัดการที่ทำงานร่วมกับทีม
- ประชุมกันในทีมเพื่อวางแผนการจัดการ ซึ่งในทีมจะมีบาริสต้าแตกต่างกันไป ในกรณีนี้ขอยกตัวอย่างว่า มีบาริสต้าจำนวน 5 คน ประกอบไปด้วยบาริสต้าระดับต่างๆ ดังนี้
- บาริสต้าระดับผู้จัดการ (Manager Barista)
- บาริสต้าระดับผู้ฝึก (Trainer Barista) ทำหน้าที่ฝึกฝนพัฒนาความสามารถให้บาริสต้าระดับเริ่มต้น (Junior Barista) ในช่วงที่เรียนรู้งานและกำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน
- บาริสต้าระดับมืออาชีพ (Professional Barista) จำนวน 2 คน ทำหน้าที่คอยสนับสนุนและช่วยฝึกบาริสต้าระดับเริ่มต้น
- บาริสต้าระดับเริ่มต้น (Junior Barista) เป็นบาริสต้าที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน มีประสบการณ์น้อย และต้องฝึกฝนเพิ่มเติม
โดยมีการประเมินการทำงานกันเป็นระยะ
- ประชุมกับทีมประชาสัมพันธ์
- ประสานงานกับผู้ผลิตหรือผู้ขายวัตถุดิบต่างๆ
📊 ขั้นตอนการทำงาน
ยกตัวอย่างขั้นตอนการทำงานใน 1 วันที่เป็นการเตรียมการก่อนเปิดร้าน ทำงานขณะที่ร้านเปิด และจัดการปิดร้าน ในร้านที่เปิดเวลา 8:00 - 18:00น.
- เดินทางถึงร้านเวลา 7:00น.
- ก่อนร้านเปิดทำการเช็กวัตถุดิบและอุปกรณ์ รับและจัดระเบียบของที่มาส่ง จัดเตรียมวัตถุดิบ เตรียมเครื่องต่างๆ และทำหน้าบาร์หรือเคาท์เตอร์ให้พร้อมรับลูกค้าเมื่อร้านเปิด
- เมื่อร้านเปิดจะเป็นการทำงานบริการลูกค้า เช่น ต้อนรับพูดคุยกับลูกค้า รับออร์เดอร์ลูกค้า (ทั้งจากหน้าร้านและจากออนไลน์) ทำเครื่องดื่ม เสิร์ฟเครื่องดื่ม ทำงานเป็นพนักงานคิดเงิน (Cashier) จนถึงช่วงเวลาพักเที่ยง
- พักกลางวัน 1 - 1.5 ชั่วโมง โดยสลับกะกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกันในวันนั้น
- กลับมาทำงานบริการลูกค้าในช่วงบ่าย
- ปิดรับออร์เดอร์และเตรียมปิดร้านเมื่อเวลา 17:30น. ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ทำความสะอาดร้าน เช็กสต็อค สรุปยอดขาย
- 18:00น. ปิดร้าน เลิกงาน
👩🏻💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ทีมบาริสต้าด้วยกัน อัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกาแฟ หรือการติดตามเรื่องงานต่างๆ
- เกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟที่ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่เข้าใจสิ่งที่เกษตรกรปลูก วิธีการปลูก เพื่อที่จะสื่อสารกับลูกค้าได้เข้าใจ
- นักแปรรูปกาแฟ (Coffee Processor) ผู้จัดการกาแฟ ต่อจากเกษตรกร
- นักคั่วกาแฟ (Roaster)
- นักชิมกาแฟ (Cupper)
- พนักงานส่งอาหาร
- ฝ่ายอาคาร ซ่อมบำรุงร้าน ช่างซ่อมและดูแลระบบน้ำ ระบบไฟ ช่างซ่อมอุปกรณ์ทำกาแฟ
- นักอบขนม ทีมเบเกอรี่
- ทีมผลิตภัณฑ์สำเร็จตามที่ร้านสั่งทำ (Finished Good) ซึ่งเป็นผู้ทำวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบในการทำเครื่องดื่ม โดยผลิตตามสูตรที่ร้านคิดและกำหนดโดยปาริสต้า เช่น น้ำเชื่อมกลิ่นเฉพาะพิเศษ น้ำผลไม้ หรือส่วนผสมออร์แกนิคต่างๆ เป็นต้น เพื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่มของร้าน
- สำหรับร้านที่เป็นบริษัทใหญ่ จะมีทีมจัดซื้อที่บาริสต้าต้องทำงานด้วย โดยจะแยกเป็นจัดซื้อของสดและของแห้ง
- ทีมจัดซื้อของสด (Fresh Food) เช่น นม ส้ม เลมอน เป็นต้น บาริสต้าต้องสื่อสารบอกความต้องการว่าต้องการของแบบไหน ปริมาณเท่าไหร่ ต้องการให้มาส่งวันไหน
- ทีมจัดซื้อของแห้ง (Dry Goods) เช่น น้ำตาล เกลือ กระดาษทิชชู่ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ (Packaging) ของร้าน เช่น แก้ว หลอด กล่องใส่ขนมกลับบ้าน เป็นต้น
- ทีมการตลาด ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายของร้าน อาจมีผู้คิดงานสร้างสรรค์ (Creative) และนักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ที่จะมาคุยกับบาริสต้าเพื่อเก็บข้อมูลไปคิดงาน
- หากเป็นบาริสต้าระดับผู้จัดการ อาจต้องทำงานร่วมกับฝ่ายบัญชีด้วย
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
ทำงานที่ร้าน โดยอาจสังกัดร้านที่มีสาขา (Coffee Shop Chain) ร้านกาแฟที่ไม่ได้มีสาขา ร้านกาแฟที่ไม่เน้นความเร็ว (Slow Bar) หรือทำงานในองค์กรที่ให้บริการเครื่องดื่มกับพนักงานในบริษัทของตน เช่น เป็นบาริสต้าในบริษัท Google เพื่อทำเครื่องดื่มให้พนักงานบริษัท Google เป็นต้น
ส่วนเวลาทำงานขึ้นอยู่กับประเภทของร้านที่สังกัด ตัวอย่างการทำงานที่ร้าน Roots ซึ่งเป็นร้านที่มีหลายสาขา และร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8:00 - 18:00น. ดังนี้
- เวลาทำงานคือ 7:00 - 18:00น. 5 วันต่อสัปดาห์
- พักกลางวัน 1.5 ชั่วโมง สลับเวลากันไปพักให้เหลื่อมๆ กัน ไม่สามารถพักเที่ยงพร้อมกันได้
- วันหยุดสลับกันเพื่อให้ได้หยุดตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์
- สามารถเก็บรวมวันหยุดเพื่อหยุดติดต่อกันได้นาน 24 วัน
- อาจมีการทำงานล่วงเวลาเพื่อทำงานให้เสร็จ การได้ค่าตอบแทนการทำงานล่วงเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
- มีความรู้ความสามารถในการทำเครื่องดื่ม รู้จักและเข้าใจกาแฟ สามารถทำให้รสชาติกาแฟออกมาตามที่คาดหวังได้
- มีความยืดหยุ่นพร้อมรับทุกสถานการณ์ เพราะต้องพบเจอลูกค้าที่หลากหลายทั้งในด้านอายุ ความต้องการ และต้องมีวิธีสื่อสารและแก้ไขสถานการณ์ให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มต่างๆ
- สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็ว เช่น น้ำไม่ไหล ไส้กรองตัน อุปกรณ์มีปัญหา เป็นต้น
- มีทักษะในการสื่อสาร ต้องฟังความต้องการของลูกค้าให้เข้าใจ รวมถึงสามารถพูดอธิบายให้ลูกค้าและเพื่อนร่วมงานเข้าใจได้ชัดเจน
- มีใจรักบริการ (Service Mind) เราไม่สามารถควบคุมได้เลยว่าลูกค้าจะเป็นใคร มีความต้องการอย่างไร งานของบาริสต้าไม่ใช่เพียงแค่รับออร์เดอร์ แต่ควรช่วยลูกค้าเลือกในสิ่งที่เหมาะและเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด ด้วยการสังเกต ถาม และแนะนำลูกค้า หากลูกค้ามาที่ร้านทุกวันก็ควรพยายามจำให้ได้ว่าลูกค้าชอบอะไร แล้วลูกค้าก็จะรู้สึกอบอุ่น และเป็นกับเองกับการมาที่ร้านนี้
- มีความพยายามและความอดทน
- มีวินัยต่อตัวเอง ทั้งในเรื่องการดูแลตัวเองให้สามารถรับผิดชอบหน้าที่ได้ รวมถึงการรักษามาตรฐานคุณภาพและเวลาที่ใช้
- มีสติ รักษามาตรฐานทั้งเครื่องดื่มและการบริการ ต้องทำตามที่ลูกค้าต้องการได้ถูกต้องและทันเวลา
- เป็นผู้เรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง อัพเดทข้อมูลข่าวสารและแนวโน้มเกี่ยวกับกาแฟเสมอ รู้จักสื่อหรือกลุ่มต่างๆ ที่ให้ข้อมูลข่าวสาร
- มีความชอบในกาแฟ ชอบกิน ชอบเสพ ชอบแก้ปัญหาเวลาที่เมล็ดกาแฟไม่อร่อย
- ช่างสังเกต เปรียบเทียบวิธีและรสชาติ สามารถชิมกาแฟและรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร อร่อยหรือไม่อร่อยอย่างไร
- อาชีพบาริสต้าไม่จำเป็นต้องมีใบประกอบอาชีพ แต่หากมีเป้าหมายที่จะเป็นอาจารย์สอนคนอื่นต่อและออกประกาศนียบัตร (Certificate) ก็ต้องไปเรียนในสถาบันต่างๆ และสอบเพื่อให้ได้ใบรับรอง
- บางร้านอาจให้เงินเดือนมากขึ้นถ้ามีประกาศนียบัตรรับรอง บางร้านอาจไม่สนใจ บางร้านอาจต้องการประสบการณ์การทำงาน บางร้านอาจรับจากการสัมภาษณ์ ดูความเข้ากันได้กับทีมโดยไม่สนใจว่ามีพื้นฐานความรู้มาก่อนหรือไม่
- บางร้านอาจไม่สนใจวุฒิการศึกษา ไม่จำเป็นต้องเรียนจบปริญญาตรี ขอแค่มีวินัยเรียนรู้งานและเข้ากับทีมได้ก็เพียงพอ
- ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษจะช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ ความจำเป็นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งและกลุ่มเป้าหมายของร้านว่ามีลูกค้าต่างชาติมากน้อยแค่ไหน
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
- ลำดับตำแหน่งของบาริสต้าในองค์กรใหญ่ (ร้านกาแฟเล็กๆ อาจไม่มีลำดับขั้นตามนี้)
- บาริสต้าระดับเริ่มต้น (Junior Barista)
- บาริสต้าระดับมืออาชีพ (Professional Barista)
- บาริสต้าระดับผู้ฝึก (Trainer Barista)
- บาริสต้าระดับผู้จัดการ (Manager Barista)
- ลำดับขั้นในอาชีพในร้านเล็กๆ อาจจะเป็นบาริสต้าฝึกหัด บาริสต้าอาวุโส และเป็นเจ้าของร้านในที่สุด
- เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 18,000 บาท
- มีสวัสดิการสุขภาพ ประกัน ขึ้นอยู่กับที่ทำงานแต่ละที่
- มีเงินที่ลูกค้าให้จากความพอใจในการให้บริการ (Tips) โดยแบ่งกับพนักงานที่ทำงานร่วมกัน
- ไม่มีค่าทำงานล่วงเวลา ควรพยายามทำงานให้เสร็จในเวลาทำงาน
- หากมีการออกงาน ออกร้านในงานกิจกรรมนอกสถานที่ จะมีค่าเดินทางไปที่งาน
- บางร้านอาจมีค่าตอบแทนพิเศษ เช่น ที่ร้าน Roots จะมีให้คิดเมนู Barista’s Choice ตามโอกาส (ทุกๆ สามเดือน) แข่งกับบาริสต้าคนอื่นๆ หากได้รับเลือกจะได้เป็นเมนูที่ขายจริงๆ ในร้านทุกสาขา และทาง Roots แบ่งรายได้จากการขายทุกๆ แก้วที่มีคนสั่งเมนูนั้นให้เป็นเปอร์เซ็นต์
- เป็นงานที่ต้องแลกด้วยความอดทน แม้จะทำเครื่องดื่มกาแฟเหมือนกัน แต่คนเปลี่ยน ทีมเปลี่ยน เครื่องเปลี่ยน ก็ต้องเรียนรู้ใหม่
- เป็นงานที่มีความกดดัน ต้องรับมือทั้งจากลูกค้าและสิ่งที่เกิดขึ้นในทีม
- ต้องทำงานแข่งกับเวลา (ยกเว้นร้านที่ขายแบบ Slow Bar)
- ต้องตื่นเช้า เพราะร้านกาแฟเปิดแต่เช้า ต้องนอนเร็วและพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้อาจไม่ได้เที่ยวกลางคืน หรือไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ บางอย่าง
- ต้องยืนทั้งวัน ยกของหนักและใช้กำลังแขน อาจทำให้ปวดหลัง สามารถป้องกันได้ด้วยการใส่รองเท้าที่มีคุณภาพดี ที่เหมาะกับการรองรับน้ำหนักและการยืนนานๆ
- ช่วงโรคระบาดหรือช่วงโควิด-19 มีร้านกาแฟปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบกับอาชีพบาริสต้ามากเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันในช่วงวิกฤตก็มีโอกาสอยู่ เป็นช่วงเวลาที่เกิดอาชีพที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟขึ้น โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับคนชงกาแฟที่อยากเปิดร้านแต่ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจ หรือวัตถุดิบต่างๆ โดยที่ปรึกษาจะช่วยแนะนำข้อมูลธุรกิจ การผลิต เมนู การประชาสัมพันธ์
- แนวโน้มในอนาคตที่ส่งผลกระทบ
- บาริสต้าหน้าใหม่ไฟแรง ที่ค่าแรงไม่สูง บาริสต้ารุ่นพี่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาที่น่าหนักใจ หรือเป็นคู่แข่ง แต่จะรู้สึกว่ายินดีต้อนรับและคอยติดตามดูว่าคนรุ่นใหม่มีศักยภาพอะไร ทำอะไรได้บ้าง
- บาริสต้ากับระบบชงกาแฟอัจฉริยะ หรือ AI
- อาจจะดริปกาแฟได้ดี แต่ถ้าอยากได้ดีกว่านี้ต้องให้มนุษย์เป็นคนทำ เพราะ AI ทำงานได้จากการใส่สูตรความคิดของมนุษย์เข้าไป ไม่สามารถทำได้ดีกว่าที่ตั้งไว้ และหากมีปัญหาเช่นเมล็ดมีความบกพร่อง มีกลิ่น AI ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะการชงกาแฟต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดในการชง ทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น
- แต่ AI มีประโยชน์ในการกำหนดให้สามารถสกัดรสชาติของกาแฟได้ตามที่มนุษย์ต้องการได้ เช่น มีเครื่องสกัดกาแฟที่สามารถตั้งเครื่องให้ทำงานตามที่ต้องการ สามารถตั้งให้สกัดด้วยอุณหภูมิ 90°c ในนาทีแรก จากนั้น 92°c ในนาทีที่สอง และ 90°c ในนาทีที่สามได้
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
Roots
Website
https://www.facebook.com/RootsBkk
https://www.instagram.com/rootsbkk/
Barista Hustle
ความรู้และเทคนิคต่างๆ ในอาชีพบาริสต้า
Website
https://www.baristahustle.com/
Project Origin
ข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟในแต่ละประเทศในโลก รวมถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ด้วย
Website
https://www.instagram.com/projectorigincoffee/
YouTube
https://www.youtube.com/channel/UCrXGKpAEM0ixbSrDpYHeBFg
งาน Thailand Coffee Fest
Website
https://thailandcoffeefest.org/
https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest/
https://www.instagram.com/thailandcoffeefest/
LINE
https://line.me/R/ti/p/@thailandcoffeefest?from=page
งานแข่งขันต่างๆ
- Thailand National Barista
- Thailand National Brewer Cup
- Thailand National Cup Taster
- Thailand National Roasting
https://www.facebook.com/thaibarista/posts/2813356488702379/
📚 ข้อมูลสายการเรียนที่เกี่ยวข้อง
มัธยมศึกษาตอนปลาย
- สายวิทย์-คณิต
- สายศิลป์-คำนวน
- สายศิลป์-ภาษา
ปริญญาตรี
- จบป.ตรีสาขาทุกสาขา แต่ควรจบหลักสูตรอบรม เช่น
- หลักสูตรอบรมศิลปะการทำกาแฟ ระดับมืออาชีพ เลอ กอร์ดอง เบลอ
- หลักสูตรอบรมบาริสต้าเบื้องต้น สาขาอาหารและโภชนาการ
- หลักสูตรอบรมบาริสต้าขั้นสูง สาขาอาหารและโภชนาการ
- หลักสูตร Professional Barista & Café Management Control
*ข้อมูล ณ ปี 2567