ให้บริการและดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารด้วยการทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่น รวมถึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนเครื่องบินด้วยทักษะและความรู้ที่ได้รับการฝึกฝนมา

งานที่ทำก่อนขึ้นเครื่องบิน

1. เตรียมตัวตื่นก่อนเวลาบิน 3 - 4 ชม ก่อนจะทำการบิน แต่งตัว แต่งหน้า ทำผมให้พร้อม
2. อ่านสรุปข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของสายการบิน
3. เดินทางไปสำนักงานใหญ่ (Headquarter) หรือห้องประชุม (Briefing Room) ที่นัดทีมที่จะทำการบินด้วยกัน เพื่ออัพเดทข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเที่ยวบินนั้นๆ โดยเจ้าหน้าที่สายการบินจะถามคำถามเพื่อตรวจสอบความรู้กับแอร์โฮสเตส เช่น ถ้ามีคนคลอดลูกขณะกำลังบินจะต้องทำอย่างไร ออกซิเจนอยู่ตรงไหน ฯลฯ หากแอร์โฮสเตสตอบไม่ได้อาจได้รับใบเตือน (Warning Letter) หรือถูกให้ออกจากงาน เป็นต้น 
4. รับข้อมูลสรุปรายละเอียดของเที่ยวบินที่กำลังจะทำการบินด้วยกัน เช่น ในเที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษหรือไม่ มีผู้ป่วย นักโทษ หรือผู้ที่ต้องการอาหารพิเศษหรือไม่
5. พบกัปตัน (ผู้ขับเครื่องบิน) ประจำเที่ยวบิน ซึ่งจะสรุปข้อมูลสภาพอากาศระหว่างเที่ยวบินให้ทีมได้ทราบและเตรียมตัว เช่น จะมีช่วงไหนที่อาจมีหลุมอากาศ (Turbulence) เป็นต้น
6. เคลื่อนย้ายไปที่เครื่องบิน

งานที่ทำเมื่ออยู่บนเครื่องบิน

1. ตรวจดูความปลอดภัย (Security Search, Security Check) ดูสภาพสิ่งของเครื่องใช้บนเครื่องบิน ว่ายังใช้ได้หรืออยู่ในสภาพดีหรือไม่
2. แยกย้ายไปทำหน้าที่ตามตำแหน่งของตน เช่น คนที่มีหน้าที่ทำครัวจะเริ่มเตรียมอุ่นอาหาร หรือจัดรถเข็นอาหาร
3. ส่งสัญญาณแจ้งและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding) 
4. ตรวจดูความเรียบร้อย สาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยและแนวทางการปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ก่อนเครื่องบินขึ้น
5. ให้บริการเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้โดยสารขณะเครื่องบินกำลังเดินทางสู่จุดหมาย
6. ตรวจดูความเรียบร้อยและความพร้อมก่อนเตรียมเครื่องลงจอด​ (Landing)
7. ส่งผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน ตรวจเช็กเครื่องบินว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ หากเจอสิ่งแปลกปลอมต้องแจ้งทางสนามบิน 
8. บางสายการบิน แอร์โฮสเตสต้องดูแลความเรียบร้อย เก็บขยะ และทำความสะอาดห้องผู้โดยสารด้วย

1. พนักงานที่ทำงานภาคพื้นดิน (Ground Staffs) ในสนามบิน 
2. บริษัทจัดเตรียมอาหาร (Catering) ที่จัดเตรียมและขนส่งอาหารเข้ามาในเที่ยวบินนั้นๆ 
3. การควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control หรือ ATC) ที่บริการให้คำแนะนำอากาศยานบนพื้นดินและผ่านน่านฟ้าที่ดูแลอยู่ ซึ่งจะทำงานร่วมกับหัวหน้าลูกเรือ และกัปตัน
4. ตำรวจในสนามบิน เมื่อมีเหตุด่วนเหตุร้ายหรือการนำส่งผู้ต้องหา

• ทำงานที่สำนักงานใหญ่หรือห้องประชุมของสายการบินที่สนามบิน เพื่อการประชุมก่อนทำการบินในเที่ยวบินนั้นๆ
• บนเครื่องบินรุ่นหรือModel ที่ได้รับการฝึกมา โดยอาจเป็นเที่ยวบินภายในประเทศหรือระหว่างประเทศก็ได้ แล้วแต่สายการบินในสังกัดจะใช้เครื่องบินรุ่นนั้น ๆ บินในเส้นทางใด
• เวลาทำงานไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเที่ยวบินที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งแอร์โฮสเตสสามารถจัดการเลือกหรือแลกเปลี่ยนเที่ยวบินได้ตามความต้องการบนระบบของสายการบิน โดยจะรู้ตารางเที่ยวบินล่วงหน้าเดือนชนเดือน (ทั้งนี้ การจัดการและแลกเปลี่ยนเที่ยวบินจะต้องเป็นไปตามมาตรการของแต่ละสายการบิน ซึ่งจะมีกำหนดจำนวนชั่วโมงที่แอร์โฮสเตสสามารถทำงานติดต่อกันได้แบบไม่ต้องพัก เพื่อให้มั่นใจว่าลูกเรือทุกคนจะสามารถปฏิบัติงานได้ในสภาพร่างกายที่พร้อมเต็มที่และปลอดภัย) 
• จำนวนชั่วโมงที่ทำงานต่อเดือนจะแตกต่างกันออกไปตามนโยบายที่แต่ละสายการบินกำหนด เช่น 70 - 100 ชั่วโมงต่อเดือน เป็นต้น

1. สื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่อง หากรู้ภาษาที่สามจะเป็นข้อดีที่ช่วยให้การทำงานบางครั้งราบรื่นขึ้น
2. สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้
3. สามารถควบคุมตนเองได้ดี (Self-Control) เมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อมีผู้โดยสารเสียชีวิตขณะเดินทาง จะต้องควบคุมตนเองได้ และปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบได้
4. แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เช่น รู้ว่าต้องจัดการอย่างไรเมื่อผู้โดยสารต้องการลุกหรือใช้ห้องน้ำเวลาเครื่องกำลังลงจอด เมื่อผู้โดยสารทำในสิ่งที่ห้ามทำ เมื่อผู้โดยสารเลือดกำเดาไหล หรือเมื่อเมนูอาหารหมด ฯลฯ
5. มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลและการแพทย์เบื้องต้น
6. บุคลิกดี ดัชนีมวลกาย (BMI) สมส่วน มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาสวยตามความนิยมของสังคม
7. มีทัศนคติดี คิดบวก มองโลกในแง่ดี 
8. มีใจรักบริการ เป็นคนที่เข้าถึงง่าย เพราะต้องพูด อธิบาย ประสานงาน และอำนวยความสะดวกตลอด 
9. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
10. เรียนจบระดับปริญญาตรี (สาขาใดก็ได้) บางสายการบินอาจรับวุฒิเรียนจบระดับมัธยมศึกษา หากมีกิจกรรมที่ทำระหว่างเรียนระบุอยู่ใน Resume หรือ CV จะเป็นการเพิ่มประสบการณ์และความน่าสนใจให้กับผู้สมัคร

• เส้นทางในสายอาชีพ (Career Path) ไม่ได้เป็นตำแหน่งที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับจำนวนประสบการณ์และประสิทธิภาพการทำงาน (Performance)
• เงินเดือนประมาณ 60,000 - 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่บินต่อเดือน (จำนวนชั่วโมงบินต่อเดือนมาก จะได้เงินต่อเดือนมาก) โดยรายได้ปกติแต่ละเดือน (จำนวนชั่วโมงบิน 40 ชั่วโมง + ค่าพักค้างคืน (Layover)) จะได้ประมาณเดือนละ 50,000 - 60,000 บาท หากเป็นหัวหน้าลูกเรือจะได้ค่าชั่วโมงบินที่สูงกว่า
• มีสิทธิได้เลื่อนขั้นหรือเพิ่มระดับการให้บริการ (เป็น Business Class หรือ First Class) หากทำงานมานาน มีประสิทธิภาพในการทำงานดี ได้รับคำชมหรือการประเมินที่ดีจากทีมงานหรือผู้โดยสาร มีประวัติการลาน้อย ไม่ค่อยได้รับจดหมายเตือน
• มีโอกาสทำงานได้ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ โดยขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องบินที่ได้รับการฝึกมา หากสายการบินมีเครื่องบินหลายรุ่น อาจให้แอร์โฮสเตสเลือกฝึกได้ 2 - 3 รุ่น ทำให้สามารถเลือกทำงานเที่ยวบินใดก็ได้ที่บินด้วยเครื่องบินรุ่นนั้นๆ
• ได้รับสวัสดิการจากสายการบินที่สังกัด เช่น สายการบินต่างชาติบางที่อาจมีที่พักให้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าน้ำและค่าไฟ มีรถบัสไปรับส่งจากที่พักไปที่ทำงาน มีบริการซักอบรีดชุดทำงานฟรี
• ได้รับสิทธิประกันสุขภาพ ตรวจสุขภาพ
• ได้สิทธิในการซื้อบัตรโดยสารของสายการบินที่ทำงานในราคาพิเศษ เช่น ลด 90% สำหรับตนเอง หรือลด 50% สำหรับเพื่อนหรือครอบครัว
• ไม่ต้องเสียภาษีหากทำงานกับสายการบินตะวันออกกลาง 
• โอกาสการทำงานที่ได้เจอคนใหม่ๆ ไปสถานที่ใหม่ๆ ได้มุมมองใหม่ๆ ได้เปิดโลก ได้เรียนรู้วัฒนธรรม
• ได้ทำงานและเที่ยวไปด้วย ไม่ต้องทำงานเวลาประจำเหมือนเดิมทุกวัน ไม่น่าเบื่อ สามารถจัดการและกำหนดวันหยุดเองได้ 
• ทำงานได้ตามอายุ และมาตรฐานสุขภาพความสามารถของร่างกายที่แต่ละสายการบินกำหนด เช่น 21 - 35 ปี ร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหว กระโดด ได้คล่องแคล่ว
• การทำงานบนเครื่องบินที่ความกดอากาศเปลี่ยนบ่อยๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ บวกกับการต้องเดินเยอะ หรือยกของหนักที่อาจทำให้ปวดหลัง นอนไม่เป็นเวลาเพราะอาจต้องนอนในเวลากลางวันเมื่อต้องทำงานเที่ยวบินกลางคืน 
• อาจมีความเครียดจากความกดดันในการทำงาน สภาพจิตใจแย่จากการบริการผู้โดยสาร หรืออาจคิดถึงบ้าน (Homesick) หากต้องทำงานเดินทางติดต่อกันหลายวัน
• เดิมค่อนข้างเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง จนกระทั่งเกิดสถานการณ์โควิดทำให้อาชีพแอร์โฮสเตสต้องปรับตัวและเตรียมแผนรับสถานการณ์ในอนาคต เช่น มีอาชีพเสริม หรือมีงานอื่นทำระหว่างรอให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ บางสายการบินปรับตัวด้วยการใช้เครื่องบินพาณิชย์เป็นเที่ยวบินขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้
• ความสามารถทางภาษา ทัศนคติ และประสบการณ์ที่ได้จากการประกอบอาชีพแอร์โฮสเตสสามารถต่อยอดทำงานอาชีพอื่นๆ และเป็นที่ต้องการของบริษัทต่างๆ เช่น เป็นครูสอนบุคลิกภาพ เลขาฯ ประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น

แนวโน้มในอนาคต 
- แม้สถานการณ์โควิดจะมีการจำกัดเที่ยวบิน แต่ในการบินแต่ละครั้ง จะไม่สามารถลดจำนวนแอร์โฮสเตสให้น้อยลงได้ เพราะแต่ละเที่ยวบินจำเป็นต้องมีแอร์โฮสเตสประจำเครื่องตามจำนวนผู้โดยสาร และประจำตามประตูของเครื่องบิน 
- ยังไม่มีเทคโนโลยี AI ที่คิดได้เอง ทำงานได้เองมาทำงานทดแทนตำแหน่งงานแอร์โฮสเตส ที่ยังต้องใช้คนสังเกตสถานการณ์ทั้งในและนอกเครื่องบิน ต้องใช้คนในการปฏิบัติการ 

Youtube:

This is PimmyPrae

https://www.youtube.com/watch?v=3rRc4r3Sjps 

Lita Can Fly

https://www.youtube.com/channel/UC-rwvaBVr4lQtqpdeiUuTnQ/playlists

Margotindubai

https://www.youtube.com/c/margotindubai/playlists

Sense the Lens

https://www.youtube.com/c/SensetheLens/videos

Flywithcream

https://www.youtube.com/channel/UCzAR5k654u9WV-GYfIaLz3Q/videos

Openchat ใน LINE:

อยากเป็นแอร์-สจ๊วต ต้องได้เป็น

Cabin crew อยากบิน มารวมกัน!

ความลับสมัครแอร์

Facebook Group:

Cabin Crew Wannabes

https://web.facebook.com/groups/cabincrewwannabes/?_rdc=1&_rdr

Cabin Crew Thailand

https://web.facebook.com/groups/355217141612203/?_rdc=1&_rdr

มัธยมศึกษาตอนปลาย

• เปิดรับทุกสายการเรียน วุฒิจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า 
• บางสถาบันเปิดรับวุฒิ ปวช.และปวส. สาขาพาณิชยการทุกสาขาวิชา

ปริญญาตรี 

• จบป.ตรีสาขาทุกสาขา แต่หากเป็นหลักสูตรเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนี้ เช่น
  • วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ สาขาธุรกิจการบิน  
  • วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ สาขานวัตกรรมการจัดการธุรกิจการบิน 
  • คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาขาวิชาการจัดการธุรกิจสายการบิน
  • คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจการบิน 
  • คณะศิลปศาสตร์ สาขาธุรกิจการบินและนวัตกรรมการบริการ 
  • คณะการบิน
  • คณะอุตสาหกรรมบริการ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่ออุตสาหกรรมบริการ

*ข้อมูล ณ ปี 2567