
นิยามสั้นๆ
สถาปนิกผู้ทำหน้าที่รวบรวมความต้องการของผู้ใช้มมาออกแบบ Space หรือ ‘ที่ว่าง’ ที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ให้งานออกมาสวยงาม แก้ปัญหาจากการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์ และตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
📃 ลักษณะงาน
- ออกแบบและนำเสนอลงบนแผ่นกระดาษหรือหน้าจอ สามารถอธิบายและถ่ายทอดความคิดของตัวเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สามารถดำเนินการตรวจสอบความเป็นไปของการก่อสร้าง การดูงบของผู้ว่าจ้างและการประเมินค่าก่อสร้างของผู้รับเหมา ตลอดจนการออกไปยังพื้นที่หน้างานเพื่อแนะนำและหาแนวทางแก้ไขร่วมกับช่างก่อสร้างหากเจอปัญหาหน้างาน
- เป็นตัวกลางที่ดีในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ออกแบบเพื่อเชื่อมความเข้าใจระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องในสาขาอาชีพอื่น ให้มีเป้าหมายเดียวกันคือสร้างผลงานให้ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้มากที่สุด
- ความแตกต่างระหว่างสถาปนิกที่ทำงานประจำกับฟรีแลนซ์ อาจขึ้นอยู่กับความสามารถและจำนวนบุคลากรที่เพียงพอต่อการทำงานโปรเจกต์นั้นๆ เช่น ฟรีแลนซ์อาจจะรับงานในระดับสเกลที่อยู่อาศัยได้ อาคารสำนักงาน ส่วนกลางของพื้นที่สาธารณะบางส่วน แต่ถ้าพื้นที่หรือปริมาณงานมากเกินกว่าที่ 1 คนจะรับไหว ก็ต้องมีตัวช่วย เช่น สร้างทีมเอง หรือว่าจ้าง Outsource เพื่อช่วยในบางขั้นตอน หากเราจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองไม่ได้ โดยปกติผู้ว่าจ้างจะเลือกบริษัทที่มีความพร้อมมากกว่า ทั้งในด้านกำลังคน ระบบการทำงาน เมื่อเทียบระยะเวลากับค่าใช้จ่าย ซึ่งทุกอย่างถือเป็นต้นทุนของผู้ว่าจ้างที่จะพิจารณา เป็นต้น
📊 ขั้นตอนการทำงาน
- รวบรวมความต้องการของลูกค้าหรือผู้ว่าจ้าง ประเมินเวลาและปริมาณงานที่ต้องทำคร่าวๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะรับหรือแนะนำให้คนอื่นรับช่วงต่อ
- เสนอราคาค่าออกแบบ
- ตกลงการว่าจ้าง แจกแจงรายละเอียด และวางระยะเวลาของแผน (Timeline) ว่าจะนัดคุยงานหรือส่งงานกี่ครั้ง แต่ละครั้งจะนำเสนออะไรบ้าง ด้วยวิธีใด (นำเสนอแบบออนไลน์หรือต่อหน้า)
- เมื่อข้อตกลงทุกอย่างเรียบร้อย ก็เริ่มทำงาน
- สอบถามความสนใจ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล (อาจเจาะลึกมากกว่าขั้นตอนแรก ที่เป็นเพียงความต้องการขั้นต้นเพื่อนำมาประเมินพื้นที่ใช้สอย และความเป็นไปได้ในการออกแบบ)
- วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ เพื่อหาแนวทางรูปแบบที่คาดว่าจะตรงกับความต้องการนั้นมากที่สุด
- บางงานที่เป็นงานรีโนเวท (ปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยพื้นที่เดิม) อาจต้องมีการเดินทางไปดูสถานที่จริง โดยอาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะไปช่วยตรวจสอบด้วย เช่น วิศวกรโครงสร้างอาคาร หรืองานระบบที่เกี่ยวข้อง เพราะอาคารเก่าบางแห่งอาจไม่แข็งแรงพอที่จะทำอะไรได้มาก ซึ่งจะกลายเป็นโจทย์เพิ่มเติมให้สถาปนิกภายในคิดแผนแก้ปัญหาต่อไป
- เริ่มขั้นตอนการออกแบบ โดยแต่ละคนอาจจะมีวิธีการคิด การวิเคราะห์ที่แตกต่างกันแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
- จำนวนวันของการทำงานแต่ละงาน จะอยู่ที่การจัดการของสถาปนิกภายในแต่ละคน หรือของแต่ละองค์กร รวมถึงขนาดและความซับซ้อนของงานนั้นๆ บางขั้นตอนอาจจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน บางขั้นตอนสามารถรวบมาทำได้หลายอย่างในวันเดียว แต่อาจใช้หลายคนช่วยกันก็ได้เช่นกัน
- เตรียมแบบที่พร้อมจะนำเสนอ บางกรณีจะเป็นงาน 2 มิติ และอาจมีภาพทัศนียภาพสามมิติบางส่วน แต่ในบางกรณีอาจต้องนำเสนอโมเดลที่เป็นชิ้นงานจริง หรือภาพทัศนียภาพ 3 มิติที่ใกล้เคียงของจริงมากที่สุดหลายภาพ เพื่อสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน)
- นัดพูดคุยและนำเสนอกับผู้ว่าจ้าง
- เลือกวัสดุที่ใช้ในงานออกแบบ เช่น วัสดุปูพื้น กรุผนัง กรุฝ้าเพดาน ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ ดวงโคมดาวน์ไลท์ โคมไฟตกแต่ง โดยบางงานอาจต้องระบุถึงรูปแบบของหน้าตาเพลทปลั๊ก สวิตซ์ หรืออุปกรณ์เฉพาะเช่น เตาเครื่องครัว อุปกรณ์ครัว หรือเครื่องไฟฟ้า ที่ทางผู้ว่าจ้างให้เราช่วยแนะนำ อาจต้องติดต่อขอตัวอย่างวัสดุจริงเพื่อนำมาเทียบเคียงกันโดยการทำ Material Board ให้ผู้ว่าจ้างจินตนาการตามได้ว่าส่วนนี้ภาพรวมจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ส่วนเฟอร์นิเจอร์อาจส่งต่อให้เซลล์ หรือไปดูของจริงที่โชว์รูม เป็นต้น
- สรุปแบบ จบขั้นตอนการออกแบบหรือจบการดีไซน์
- เขียนแบบและลงรายละเอียดการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบิวท์อินหรืองานตกแต่งพื้น ผนัง ฝ้า รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใหม่ในพื้นที่นั้นๆ โดยระหว่างนี้ก็จะต้องใช้เวลาคิดในส่วนที่ตอนดีไซน์ยังไม่ได้ลงรายละเอียดครบ โดยอาจจะเป็นคนออกแบบคนเดียวกันที่ทำหน้าที่นี้ หรือส่งต่อให้อีกคนก็แล้วแต่ระบบการทำงาน (สำหรับบริษัท) แต่หากเป็นฟรีแลนซ์ก็ต้องจัดการเองทั้งหมด
- ปรับแก้ไขแบบจนเสร็จเรียบร้อย
- ส่งแบบให้ผู้รับเหมา หรือบริษัทรับเหมาประเมินราคา โดยอาจจะเป็นการว่าจ้างโดยตรงหรือใช้ระบบประเมินราคา แล้วผู้ว่าจ้างเลือกที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดก็ได้ (เรียกขั้นตอนนี้ว่า ‘ประมูลแบบ’ มักมีขั้นตอนนี้สำหรับการทำงานใหญ่ๆ มากกว่างานขนาดเล็ก)
- ติดตามงานระหว่างการก่อสร้าง อาจมีการนัดเข้าไปดูหน้างานกับผู้ว่าจ้างเป็นครั้งคราวตามข้อตกลง และปรับแก้ไขแบบหากพบจุดที่จำเป็นต้องแก้ไข เช่น ระยะหน้างานเมื่อทำการรื้อวัสดุกรุเดิมออก มีความแตกต่างจากแบบมาก หรือมีข้อจำกัดในการก่อสร้างจริง ช่างอาจจะนำเสนอวิธีการที่ต่างจากการออกแบบของสถานิก ตรงนี้เป็นขั้นตอนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้ร่วมกัน โดยให้ผู้ว่าจ้างเป็นคนอนุมัติหรือให้รับทราบเมื่อมีการปรับแบบด้วยเหตุสุดวิสัยหน้างานทุกครั้ง
- เมื่อจบขั้นตอนทั้งหมด สถาปนิกภายในจะจัดส่งไฟล์ข้อมูลหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องระหว่างการทำงานให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อจบงาน
- Back up ข้อมูลให้เรียบร้อย เก็บสำรองไว้กับทางผู้ออกแบบ โดยอาจจะกำหนดเองว่าจะลบ (หรือทิ้ง) แล้วเหลือเฉพาะงานที่ใช้จริงไว้กี่ปี หรือเก็บอะไรไว้บ้าง
👩🏻💻 อาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ผู้ว่าจ้าง ซึ่งในงานสเกลใหญ่ระดับองค์กร อาจได้ประสานงานกับหลายฝ่าย หรือเฉพาะแค่ผู้ประสานงานก็ได้
- วิศวกร (Engineer) ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรโยธา วิศวกรงานระบบ (ประปา ไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาล ระบบปรับอากาศ) หรือแม้แต่วิศวกรสิ่งแวดล้อมสำหรับบางโปรเจกต์
- สถาปนิก (Architect)
- ภูมิสถาปนิก (Landscape Architect)
- เซลล์ (Sales) หรือผู้ชำนาญในเรื่องของวัสดุก่อสร้างนั้นๆ
- ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง (Furniture and decoration accessories supplier)
- ผู้รับเหมาก่อสร้าง (Contractor) โฟร์แมน (Foreman) ช่างก่อสร้าง (Mason)
- พนักงานบัญชี ธุรการ หรือคนทำหน้าที่เบิกจ่ายค่าออกแบบ (Accounting Officer) กรณีที่ผู้ว่าจ้างเป็นองค์กร หรือบริษัท
- ซินแสและผู้ชำนาญทางด้านความเชื่อ (Feng shui master) แล้วแต่ความศรัทธาของผู้ว่าจ้าง
- ฝ่ายดูแลอาคาร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยอาคาร (Building department) กรณีต้องเข้าไปตรวจงานก่อสร้างตอนช่วงค่ำ เช่น ในห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน
- สถาปนิกภายใน (Interior Architect) หรือมัณฑนากร (Interior Designer) หากงานนั้นมีหลายทีมที่เกี่ยวข้อง และต้องทำร่วมกัน
- อาชีพอื่นๆ ตามโจทย์งานที่ได้รับ เช่น
- งานออกแบบพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการ จะได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์หรือภัณฑารักษ์ (Curator)
- งานออกแบบครัวที่มีลักษณะเฉพาะอย่าง Fine dining, Buffet line ในโรงแรม จะได้ทำงานกับเชฟ (Chef) และผู้จัดการร้าน (Manager)
- งานออกแบบโรงเรียนเด็กอนุบาลหรือประถม จะได้ทำงานกับครู (Teacher) เพราะสเกลทุกอย่างจะเล็กและมีข้อควรระวังเพิ่มเติมเรื่องความปลอดภัย
- งานออกแบบซาลอนหรือร้านทำผม จะได้ทำงานกับช่างตัดผม (Barber) เพื่อศึกษาขนาดและระยะของเตียงสระผมหรือเก้าอี้ตัดผม เป็นต้น
🏢 สถานที่และเวลาทำงาน
- หากเป็นสถาปนิกภายในที่สังกัดบริษัท จะเข้าทำงานที่ออฟฟิศ หากเป็นฟรีแลนซ์จะสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ โดยอาจต้องออกนอกสถานที่เพื่อไปประชุม พบลูกค้าและดูสถานที่จริง
- เวลาทำงาน เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด แต่อาจยืดหยุ่นได้เพื่อเอื้อให้สถาปนิกภายในและผู้ที่เกี่ยวข้องสะดวกตรงกัน
✅ ความรู้ความสามารถที่ต้องใช้
- มีความรู้เรื่องการออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน ตามหลักสูตรวิชาชีพ
- มีทักษะการสื่อสาร
- การฟัง เพื่อเก็บรายละเอียดและจับประเด็นต่างๆ
- การพูด ทั้งเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจความคิดของเรา และการพูดสอบถามเพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการที่แท้จริงของผู้ว่าจ้าง
- การเขียน การวาด ไม่จำเป็นต้องวาดสวยแต่ต้องวาดให้รู้เรื่อง สื่อสารเข้าใจกันได้
- ภาษากาย ช่วยเสริมบุคลิกภาพและความน่าเชื่อถือ
- มี Sence ด้านความงาม (Esthetics)
- มัทักษะการประสานงาน
- มีวินัยและตรงต่อเวลา รวมถึงการสร้างมาตรฐานให้ตัวเอง เพื่อเป็นภาพจำที่ดีแก่ผู้ว่าจ้างและการแนะนำไปยังผู้อื่น
***พึงระลึกเสมอว่า งานที่ดี คืองานที่เสร็จและตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน (หรือผู้ว่าจ้าง) - มีความชัดเจน ในบางสถานการณ์ สถาปนิกภายในต้องมีความมั่นคงในความคิดบนพื้นฐานความเหมาะสมที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว เพื่อให้งานดำเนินไปหรือเสร็จออกมาในแบบที่ควรจะเป็น หรือดีที่สุดที่สามารถเป็นไปได้
- เคารพตัวเอง โดยการให้เวลาในการจัดสรรกิจกรรมที่ทำให้กายและใจพร้อมที่จะใช้ความคิดอย่างเต็มที่ และเคารพต่อผู้อื่นทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าจ้างที่ให้ค่าจ้างเรา หรือช่างก่อสร้างที่ให้ความรู้เราในเทคนิคบางอย่างที่เราเองก็อาจจะไม่เคยรู้
- มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ความนอบน้อมและรู้กาลเทศะ จะทำให้สถาปนิกภายในได้ความรู้ใหม่ๆ จากคนมากมายเพื่อไปต่อยอดกับงานต่อๆ ไปได้อีกมาก
- มีความใฝ่รู้ หมั่นติดตามเทรนด์ ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะสาขาการออกแบบ แต่หมายถึงการเสพงานศิลป์ที่จะช่วยฝึกทักษะด้านอื่นๆ ของเราได้ (แต่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ)
- มีความกล้าในการทำสิ่งต่างๆ อย่างรู้กาลเทศะ กล้านำเสนอสิ่งใหม่ๆ ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
💵 โอกาส ความท้าทาย และผลตอบแทน
- โอกาสการเติบโตในสายอาชีพนี้ จะเริ่มจากระดับจูเนียร์ ที่ทำหน้าที่บางส่วนของโปรเจกต์ พัฒนาความสามารถจนเลื่อนขั้นเป็นซีเนียร์ ดูแลทีมและโปรเจกต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อาจขยับขึ้นไปเป็นระดับบริหาร ผู้ถือหุ้นบริษัท หรือออกไปตั้งบริษัทของตัวเอง
- คุณค่าที่ได้จากการทำอาชีพสถาปนิกภายใน คือ การได้พบปะผู้คนและการฝึกทักษะการถ่ายทอดความคิดของเรา และเกิดความภูมิใจจากการได้เห็นสิ่งที่เคยคิดอยู่ในหัวของเรา ถูกสร้างขึ้นมาแล้วมีประโยชน์ ได้ช่วยแก้ปัญหาให้ใครบางคน หรือทำให้สถานที่บางแห่งกลับมามีชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรม
- ความท้าทายที่อาจพบจากการทำอาชีพนี้ คือ การแบ่งเวลาชีวิตและการตัดจบกระบวนการคิด ที่สถาปนิกภายในจะต้องจัดการให้ตัวเองสามารถคิดออกแบบงานและลงมือทำโดยที่ไม่ต้องกลับไปทบทวนหาแนวทางอื่นอีก ภายใต้ขอบเขตเวลาและงบประมาณที่มี เพื่อป้องกันปัญหาการทำงานไม่ทันหรือทำทันแต่งานที่ออกมาไม่ได้คุณภาพที่ดีพอแก่การนำเสนอ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่อาจจะเสื่อมลงก่อนวัยจากการหักโหมเกินกำลัง
- ผลตอบแทนจะมีในรูปแบบเงินเดือน และสวัสดิการตามนโยบายขององค์กรที่สังกัด เงินเดือนในช่วงแรกจะยังไม่สูงมาก เพราะเป็นช่วงที่เน้นสะสมความรู้และประสบการณ์ ค่าตอบแทนจะสูงขึ้นตามความสามารถในการรับงานออกแบบด้วยตนเอง ความรับผิดชอบในหน้าที่สถาปนิกภายในอย่างเต็มตัวตั้งแต่ต้นจนจบ หรือขึ้นเป็นระดับซีเนียร์นำทีม หากเป็นฟรีแลนซ์จะได้เงินตอบแทนรายโปรเจกต์ตามที่ตกลงไว้
🖥️ ช่องทางการศึกษาความรู้เพิ่มเติม
- ท่องโลกออนไลน์บ่อยๆ เพื่อดูและอ่านบทความจากเว็บไซต์ที่เขียนเล่าเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรมภายในและอาจรวมไปกับสาขาอื่น ๆ เช่น
Designboom (https://www.designboom.com/) , ArchDaily (https://www.archdaily.com/) , art4d (https://art4d.com/) , Dezeen (https://www.dezeen.com/), Architizer (https://architizer.com/) ฯลฯ
และเมื่อเราสนใจบทความไหนหรืองานใด ให้ตามไปดูว่าใครทำ ใครออกแบบ คิดด้วย Concept อะไร และทำไมถึงทำสิ่งนี้ขึ้น หรืออาจเอาชื่อสถาปนิกไปสืบค้นต่อว่าเขาทำงานอะไรอีกบ้าง
📚 ข้อมูลสายการเรียนที่เกี่ยวข้อง
มัธยมศึกษาตอนปลาย
- สายวิทย์-คณิต
- สายศิลป์-คำนวน
- สายศิลป์-ภาษา
- ปวช. หรือเทียบเท่า
ปริญญาตรี เช่น
- คณะมัณฑนศิลป สาขาการออกแบบภายใน
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาสถาปัตยกรรมภายใน
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง สาขาสถาปัตยกรรมภายใน
- คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ สาขาสถาปัตยกรรมภายใน
- วิทยาลัยการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน
- คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน
ปริญญาโท เช่น
- หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรมภายใน
*ข้อมูล ณ ปี 2567