• ให้บริการดูแลและตกแต่งเล็บให้ลูกค้า 
• ดูแลทำความสะอาดและซ่อมแซมเครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการทำงาน

• พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า (อาจต้องขอรูป Reference เพื่อใช้ในการอ้างอิงหรือยกตัวอย่างให้เห็นภาพตรงกัน) รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับสไตล์และการดูแลเล็บ
• ตกลงราคาค่าบริการ โดยปกติช่างทำเล็บจะมีเรทราคาอยู่ แต่บางครั้งลูกค้าอาจขอเพิ่มรายละเอียดบางส่วน จึงจำเป็นต้องแจ้งราคาให้ทราบและตกลงร่วมกันก่อน
• วางแผนการทำงานและจัดเตรียมอุปกรณ์ เช่น กรรไกรตัดเล็บ กรรไกรเล็มหนัง ตะไบ สีทาเล็บ พู่กัน สติกเกอร์ ฯลฯ
• เตรียมเล็บลูกค้า ทำความสะอาดและตัดทรงเล็บให้เหมาะสมกับแบบเล็บที่ตกลงกันไว้
• ลงมือตกแต่งและสร้างสรรค์ผลงาน
• ตรวจสอบความถูกต้องและความสวยงามของเล็บก่อนปิดงาน
• เก็บอุปกรณ์และดูแลทำความสะอาดให้พร้อมให้บริการลูกค้าคนต่อไป

1. คนขายเล็บปลอมและอุปกรณ์ตกแต่งเล็บ (Nail supplier, Nail equipment salesperson)
2. ช่างทำเล็บคนอื่นในทีม กรณีที่ทำงานในร้านเสริมสวยครบวงจร อาจมีช่างทำเล็บมากกว่า 1 คน โดยจะมีการแบ่งหน้าที่กันตามความเชี่ยวชาญ เช่น บางคนสามารถปิดจบงานได้ด้วยตัวเอง บางคนจะรับหน้าที่เตรียมเล็บเท่านั้น และอาจได้ใกล้ชิดกับอาชีพช่างทำผม (Hairstylist) ช่างแต่งหน้า (Makeup artist) ช่างต่อขนตา (Eyelash extension artist)

• สถานที่ทำงาน เช่น ศูนย์ความงาม สถานเสริมความงาม คลินิกความงาม ที่บ้านของลูกค้า โดยช่างทำเล็บบางคนที่มีบริการทำเล็บนอกสถานที่ อาจได้ทำงานที่โรงแรมที่จัดงานแต่ง ห้างสรรพสินค้าที่จะมีงานอีเวนท์ หรือบ้านลูกค้า เป็นต้น
• เวลางานของช่างทำเล็บอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของร้านที่สังกัด แต่บางครั้งอาจต้องทำงานล่วงเวลา เช่น ลูกค้าจองคิวรอบดึก หรือจองคิวในวันที่ช่างหยุด เป็นต้น

1. มีทักษะการออกแบบและการวาดรูป สามารถออกแบบทรงและลวดลายเล็บให้สวยงามและน่าสนใจ
2. มีทักษะการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
3. มีความรู้เรื่องวัสดุที่ใช้ในการทำเล็บ สามารถเลือกใช้และอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ
4. มีทักษะการสื่อสาร อัธยาศัยดี โดยเฉพาะการฟังและทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบ รวมถึงทักษะการให้คำปรึกษาและแนะนำทรงและสีที่เหมาะสมกับเล็บของลูกค้า
5. ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและอนามัยความสะอาดเช่น ใช้งานเครื่องมือและวัสดุอย่างถูกต้อง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบนอุปกรณ์ เป็นต้น
6. ใส่ใจในรายละเอียด
7. ใฝ่รู้ ติดตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ และพัฒนาตัวทักษะอยู่เสมอ

• คุณค่าที่คนทำงานอาชีพช่างทำเล็บจะได้รับคือ การได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ผ่านงานศิลปะบนเล็บมือ
• โอกาสในสายอาชีพนี้ คือ 
  - เทรนด์แฟชั่นที่มีผู้ที่สนใจในการทำเล็บมากขึ้น ธุรกิจการทำเล็บเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว (หลังพ้นช่วงโควิด-19 มีร้านและช่างทำเล็บหลายคนปรับตัวโดยเพิ่มบริการทำเล็บที่บ้าน) 
  - ช่างทำเล็บที่สะสมประสบการณ์ จนมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าประจำ อาจออกไปเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เพราะไม่ต้องลงทุนมากนักและสามารถทำงานที่บ้านตัวเอง หรือบ้านลูกค้าได้ ซึ่งหากมีชื่อเสียงด้านฝีมือ อาจมีสิทธิ์ให้บริการลูกค้าที่มีชื่อเสียงด้วย
• ความท้าทายที่อาจพบในการทำอาชีพนี้ คือ ความเสี่ยงด้านสุขภาพ ผ่านการเจอสารเคมีในการทำเล็บที่สะสมเป็นเวลานานจนติดเชื้อ เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังบนมือเสียหายหรือแห้งกระด้าง อีกเรื่องคือการทำงานภายใต้แรงกดดัน เพราะอาชีพช่างทำเล็บมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้ช่างแต่ละคนต้องพยายามรักษามาตรฐานเดิมและคิดค้นไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้ามากขึ้น
• ผลตอบแทนที่ช่างทำเล็บจะได้ หากสังกัดร้านประจำจะได้เป็นเงินเดือน (อาจมีค่าทิป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงของร้าน) หากเป็นฟรีแลนซ์จะได้เป็นค่าบริการต่อครั้ง ซึ่งเรทราคาจะแตกต่างกันไปตามความยากง่ายของงาน

• เว็บไซต์ที่มีบทความ วิดีโอสอนการทำเล็บ ข่าวสารและเทคนิคการทำเล็บ เช่น Nailpro.com, Scratchmagazine.co.uk
• สมัครเข้าเรียนคอร์สอบรมจากสถาบันการฝึกอาชีพ 

มัธยมศึกษาตอนปลาย

• เปิดรับทุกสายการเรียน วุฒิจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า (***บางคณะอาจมีเงื่อนไขเปิดรับเฉพาะบางสายการเรียน)

ปริญญาตรี เช่น

• คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาทัศนศิลป์
• คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ สาขาวิชาทัศนศิลป์
• วิทยาลัยเพาะช่าง สาขาจิตรกรรม
• วิทยาลัยช่างศิลป สาขาวิชาจิตรกรรม
• บางหน่วยงานเปิดรับวุฒิ ป.ตรีสาขาทุกสาขา แต่ควรจบหลักสูตรอบรมด้านการทำเล็บเพิ่มเติม เช่น
  • หลักสูตรศิลปะการตกแต่งเล็บเชิงธุรกิจ
  • หลักสูตรสอนทำเล็บ เรียนทำเล็บ สอนเพ้นท์เล็บ

*ข้อมูล ณ ปี 2567